Bone Meal

ทำความรู้จักกับ Bone Meal

ประโยชน์หลักของ Bone Meal สำหรับการปลูกผักอินทรีย์

1. แหล่งฟอสฟอรัส (Phosphorus: P) สูง

Bone Meal เป็นแหล่งของธาตุอาหาร ฟอสฟอรัส ที่สำคัญมาก
ฟอสฟอรัสมีบทบาทหลักในการ

  • ส่งเสริมการเจริญเติบโตของราก: ทำให้พืชมีรากที่แข็งแรงและแผ่กว้าง สามารถดูดซึมน้ำและธาตุอาหารได้ดีขึ้น ซึ่งสำคัญมากสำหรับพืชผักราก เช่น แครอท หัวไชเท้า และพืชที่เพิ่งย้ายปลูก

  • กระตุ้นการออกดอกและการติดผล: ช่วยให้พืชผักติดดอกและพัฒนาเป็นผลผลิตได้มากขึ้น เช่น มะเขือเทศ พริก ถั่ว และพืชผักที่ออกดอกอื่นๆ

  • การสร้างพลังงานและการสังเคราะห์แสง: ฟอสฟอรัสจำเป็นสำหรับกระบวนการสร้างพลังงานและการสังเคราะห์แสง ทำให้พืชผักเติบโตได้อย่างสมบูรณ์

2. แหล่งแคลเซียม (Calcium: Ca) ชั้นดี

Bone Meal อุดมไปด้วย แคลเซียม ซึ่งเป็นธาตุอาหารรองที่สำคัญมาก
แคลเซียมช่วยในการ

  • เสริมสร้างความแข็งแรงของผนังเซลล์: ทำให้ลำต้นและเซลล์พืชแข็งแรง มีความต้านทานต่อโรคและแมลงได้ดีขึ้น

  • ป้องกันอาการปลายผลเน่า (Blossom End Rot): ในพืชผักบางชนิด เช่น มะเขือเทศ พริก และแตง อาการปลายผลเน่ามักเกิดจากการขาดแคลเซียม Bone Meal จึงช่วยป้องกันปัญหานี้ได้

3. เป็นปุ๋ยออกฤทธิ์ช้า (Slow-Release Fertilizer)

เนื่องจาก Bone Meal เป็นวัสดุอินทรีย์ที่ต้องใช้เวลาในการย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ในดิน ทำให้ธาตุอาหารถูกปล่อยออกมาอย่างช้าๆ และต่อเนื่อง ตลอดฤดูปลูก ประโยชน์คือ:

  • ให้ธาตุอาหารได้ยาวนาน: ไม่ต้องใส่บ่อยเหมือนปุ๋ยเคมีที่ละลายเร็ว

  • ลดความเสี่ยงจากการใส่ปุ๋ยเกินขนาด: โอกาสที่พืชจะได้รับธาตุอาหารมากเกินไป มีน้อยกว่าปุ๋ยเคมี

4. ปรับปรุงคุณภาพดิน

Bone Meal เป็นสารอินทรีย์ที่ช่วยเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุในดิน เมื่อย่อยสลายแล้วจะช่วย:

  • ส่งเสริมจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์: ช่วยเพิ่มกิจกรรมของจุลินทรีย์ในดิน ซึ่งช่วยในการปรับปรุงโครงสร้างของดิน

  • ปรับค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH): Bone Meal มีความเป็นด่างเล็กน้อย ซึ่งจะช่วยปรับสมดุล pH ของดินที่มีความเป็นกรดสูงให้เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของพืช






รายละเอียดต่อไปนี้ คือคำแปลบนบรรจุภัณฑ์


Steamed Bone Meal
กระดูกสัตว์นึ่งเกรดพรีเมี่ยม สะอาด ปราศจากเชื้อปนเปื้อน
สินค้าจากประเทศญี่ปุ่น ฟอสฟอรัส แคลเซียมสูง เพื่อช่วยดูแลการติดดอกติดผล

ปุ๋ยอินทรีย์ธรรมชาติ 100% อุดมด้วยแร่ธาตุสำคัญ 2 ชนิด คือ ฟอสฟอรัส และ แคลเซียม ที่ปลดปล่อยอย่างช้าๆ และต่อเนื่อง แก้ไขปัญหาหลักของพืชผัก ไม้ผล ไม้ดอก คือ "ดอกร่วง ผลหลุด ขั้วไม่แข็งแรง"
ใช้งานง่ายและปลอดภัย ไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมีตกค้าง

จุดเด่นที่ 1: ติดดอก ติดผล เร่งหวาน

  • (P) ฟอสฟอรัส
เร่งดอกออกเต็มต้น / กระตุ้นการติดผล: อัตราส่วนฟอสฟอรัสที่สูงมากเป็นพิเศษ (20%) ช่วยให้พืชสร้างดอกและเปลี่ยนเป็นผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ / ช่วยให้พืช แข็งแรงทนทานต่อโรค และ เพิ่มรสชาติ ความหวาน ให้กับผลผลิต

  • (Ca) แคลเซียม
สร้างผนังเซลล์ที่แข็งแรง เสริมความแน่นของขั้วดอกและขั้วผล ป้องกันปัญหาดอกร่วง ผลร่วง และอาการปลายผลเน่า (Blossom End Rot)

จุดเด่นที่ 2: เป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่ออกฤทธิ์ยาวนาน

  • เป็นแหล่งฟอสฟอรัสและแคลเซียมที่ปลอดภัย และเป็นสารอาหารอินทรีย์แบบปลดปล่อยอย่างช้า (Slow-Release)

  • ปุ๋ยจะค่อยๆสลายตัวในดินอย่างต่อเนื่อง ทำให้พืชได้รับสารอาหารยาวนานตลอดฤดูการติดผล ไม่มีความจำเป็นต้องให้บ่อย


วิธีใช้และปริมาณ

  • ใช้ปรับปรุงดินก่อนปลูก
    100-200 กรัม ต่อพื้นที่ 1 ตารางเมตร ผสมคลุกเคล้ากับดิน
  • ใช้โรยรอบโคนต้นแล้วพรวนกลบ 1-2 กำมือ ในช่วงที่พืชเริ่มแตกกิ่ง, เริ่มแทงช่อดอก, ตั้งช่อดอก, กำลังจะมีดอก เช่น มะเขือเทศ, พริก, แตงกวา, ไชเท้า, แครอท,​ บีทรูท ,​ มันเทศ,​ มะนาว, มะม่วง,​มะละกอ, องุ่น,​กุหลาบ, กล้วยไม้, ไม้หัว/ไม้กระเปาะ เป็นต้น .. (ผักกินผล, ผักกินหัวกินราก, ไม้ผล, ไม้ดอก ไม้ประดับ)

    ในไม้ผล แนะนำใส่ปีละ 1-2 ครั้ง รอบชายพุ่มแล้วกลบ

  • ใช้สำหรับการเตรียมดินปลูกในภาชนะ
    ผสมคลุกเคล้ากับดินให้เข้ากัน ตามสัดส่วนที่แนะนำ หรือใช้รองพื้น รองก้นหลุมปลูก
    ดินปลูกประมาณ 1 ลิตร ใช้ 5 กรัม
    กระถางขนาด 4 ลิตร ใช้ 20 กรัม
    กระถางหรือกระบะ ขนาด 12-14 ลิตร ใช้ 60 กรัม
ไม่นิยม/ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ Bone Meal กับพืชผักกินใบที่มีอายุสั้น มีอายุเก็บเกี่ยวเร็ว เช่น ต้นอ่อน, ผักบุ้ง, คะน้า, ผักกาด, ผักสลัด ..​เนื่องจากพืชต้องการไนโตรเจนมากกว่าฟอสฟอรัส และ Bone Meal ใช้เวลาในการปลดปล่อยธาตุอาหาร

ข้อควรระวัง
เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

  • ฟอสฟอรัสใน Bone Meal จะดูดซึมได้ดีที่สุดใน ดินที่มีค่า pH เป็นกลางถึงกรดเล็กน้อย (ต่ำกว่า 7.0) หากดินมีความเป็นด่างสูง (pH สูง) ฟอสฟอรัสจะถูกตรึง พืชดูดซึมหรือนำไปใช้ได้ยาก แนะนำให้ตรวจค่า pH ดิน

  • การใช้ในปริมาณที่มากเกินไป โดยเฉพาะในกระถางหรือภาชนะขนาดเล็ก อาจทำให้ดินด่างเร็วขึ้น

  • ประสิทธิภาพของ Bone Meal ยังขึ้นกับจุลินทรีย์ในดินอีกด้วย ถ้าดินเย็นจัด หรือดินมีสภาพแห้งมาก การปลดปล่อยธาตุฟอสฟอรัสจะช้า ไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดี

  • Bone Meal ไม่ใช่ปุ๋ยหลักหรือปุ๋ยครบสูตร จึงควรใช้ร่วมกับปุ๋ยอินทรีย์อื่นๆที่มีไนโตรเจนสูง เช่น ปุ๋ยหมัก หรือ ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยพืชสด เพื่อให้พืชได้รับธาตุอาหารหลักครบถ้วน (N-P-K)

  • กลิ่นของ Bone Meal ดึงดูดสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข หรือสัตว์อื่นๆ ระมัดระวังสัตว์มาคุ้ยเขี่ยกิน
    ควรคลุกเคล้า Bone Meal ให้เข้ากับดินอย่างดีก่อนปลูก หรือ กลบให้มิดชิดเมื่อมีการใส่ปุ๋ย