LATIN NAME
Brassica rapa var. pekinensis
SCIENTIFIC NAME
Brassica rapa
Soil Temperature
ช่วงอุณหภูมิดินที่เหมาะสมในการงอก
30-35 °C
Days to Germination
ระยะเวลาในการเพาะเมล็ด
3-7 วัน
DAYS TO MATURITY
54-60 วัน
SUN REQUIREMENT
แสงแดดตลอดวัน
SUN REQUIREMENT
แสงแดดตลอดวัน
สายพันธุ์พืช
(ชื่อเรียกทางการค้า)
Bilko Chinese Cabbage
Organic Seed เมล็ดพันธุ์ออร์แกนิค
Hybrid F1 พันธุ์ลูกผสม F1
ผักกาดขาวบิลโก้ จัดเป็นพันธุ์ขนาดใหญ่ เมื่อเทียบกับพันธุ์ฮากุ พันธุ์บิลโก้จะมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย (ประมาณ 12 นิ้ว) มีสีเขียวเข้มกว่า และเติบโตช้ากว่าเล็กน้อย (ประมาณ 2-3 วัน) บิลโก้มีความสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้หลากหลาย หัวผักกาดมีลักษณะการเจริญเติบโตที่ช้า ทำให้ไม่รีบออกดอก ลักษณะปลีหรือการห่อหัว ห่อปลีหลวมๆ รสชาติหวานอ่อนๆ และอร่อย ได้รับการรับรองออร์แกนิกจาก USDA (กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา)
DISEASE RESISTANCE
ความทนทานต่อการเกิดโรค
Fusarium Yellows โรคเหี่ยวเหลือง
Club Root โรครากปม
วิธีเพาะปลูก
Chinese Cabbage ผักกาดขาว
1. การเตรียมดิน
* ดินร่วนซุย: ผักกาดขาวชอบดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี และมีความอุดมสมบูรณ์สูง
* ปรับปรุงดิน: หากดินเป็นดินเหนียว ควรปรับปรุงดินโดยการเติมอินทรียวัตถุ เช่น ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก เพื่อเพิ่มความร่วนซุยและการระบายน้ำ
* ค่า pH: ค่า pH ของดินที่เหมาะสมสำหรับการปลูกผักกาดขาวคือ 6.0-6.8
* แปลงปลูก: เตรียมแปลงปลูกโดยการไถพรวนดินให้ลึกประมาณ 15-20 cm ย่อยดินให้ละเอียด และยกแปลงสูงประมาณ 15-20 cm เพื่อป้องกันน้ำขัง
2. การเพาะเมล็ด
สามารถเพาะเมล็ดได้ 2 วิธี คือ
* เพาะในถาดเพาะ: หยอดเมล็ดลงในถาดเพาะที่บรรจุวัสดุเพาะ เช่น พีทมอส หรือดินผสม รดน้ำให้ชุ่ม และวางในที่ร่มรำไร เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 2-3 ใบ จึงย้ายลงแปลงปลูก
* หยอดลงแปลงปลูกโดยตรง: หยอดเมล็ดลงในแปลงปลูกโดยตรง โดยเว้นระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 30-40 เซนติเมตร และระหว่างแถวประมาณ 40-50 เซนติเมตร
3. การดูแลรักษา
* การให้น้ำ: ต้องการน้ำสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการเจริญเติบโต ควรรดน้ำให้ดินชุ่มชื้นอยู่เสมอ แต่ระวังอย่าให้มีน้ำขัง
* การให้ปุ๋ย: ใส่ปุ๋ยที่มีธาตุไนโตรเจนสูงในช่วงแรกของการเจริญเติบโต เพื่อเร่งการเจริญเติบโตของใบ และใส่ปุ๋ยที่มีธาตุฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมสูงในช่วงที่ผักกาดขาวเริ่มห่อหัว เพื่อช่วยให้หัวแน่นและมีคุณภาพดี
* การกำจัดวัชพืช: กำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้วัชพืชแย่งอาหารและน้ำ
* การป้องกันกำจัดโรคและแมลง: ตรวจสอบแปลงปลูกอย่างสม่ำเสมอ หากพบโรคหรือแมลง ให้รีบกำจัดโดยเลือกใช้สารกำจัดศัตรูพืชที่ปลอดภัย
4. การเก็บเกี่ยว
* ระยะเวลา: บิลโก้จะเริ่มห่อหัวเมื่อมีอายุประมาณ 45-60 วันหลังจากหยอดเมล็ด
* สังเกต: สังเกตเมื่อหัวผักกาดขาวห่อหัวแน่น มีขนาดตามที่ต้องการ ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้
ข้อควรระวัง
* สภาพอากาศ: ผักกาดขาวชอบอากาศเย็น อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตคือ 15-20°C
* แสงแดด: ควรได้รับแสงแดดโดยตรงอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน หรือให้ดีที่สุดคือตลอดทั้งวัน แสงแดดที่เพียงพอจะช่วยให้ผักกาดขาวสร้างหัวได้แน่นและมีคุณภาพดี แต่ในสภาพอากาศที่ร้อนจัด อาจต้องมีร่มเงาบางส่วนเพื่อป้องกันไม่ให้ใบไหม้
* โรคและแมลง: ระวังโรคเน่าเละ และแมลงศัตรูพืช เช่น หนอนใยผัก เพลี้ยอ่อน
เคล็ดลับเพิ่มเติม
* การคลุมดิน: คลุมดินด้วยฟางหรือหญ้าแห้ง เพื่อรักษาความชื้นในดินและป้องกันวัชพืช
* การปลูกหมุนเวียน: ปลูกผักกาดขาวหมุนเวียนกับพืชชนิดอื่น เพื่อป้องกันโรคและแมลง
* หากต้องการให้ผักกาดขาวมีหัวแน่น ควรห่อหัวผักด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์เมื่ออายุประมาณ 30-45 วัน
* การปลูกผักกาดขาวในฤดูฝน ควรยกร่องแปลงให้สูง เพื่อป้องกันน้ำท่วมขัง
* การปลูกผักกาดขาวชนิดห่อหัวในกระถาง ควรเลือกกระถางที่มีขนาดใหญ่และมีรูระบายน้ำดี
* การปลูกผักกาดขาวชนิดห่อหัวในกระถาง ควรเลือกกระถางที่มีขนาดใหญ่และมีรูระบายน้ำดี
คำถามที่พบบ่อย
ทำไมผักกาดขาวไม่ห่อหัว?
โดยทั่วไปแล้ว ผักกาดขาวบิลโก้ (Bilko Chinese Cabbage) จะเริ่มห่อหัวเมื่อมีอายุประมาณ 45-60 วันหลังจากหยอดเมล็ด แต่ระยะเวลาที่แน่นอนอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ
เช่น
* สภาพอากาศ: อากาศเย็นจะช่วยกระตุ้นการห่อหัวได้ดีกว่าอากาศร้อน
* แสงแดด: ต้องการแสงแดดอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน
* การให้น้ำและปุ๋ย: การให้น้ำและปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ผักกาดขาวบิลโก้เจริญเติบโตได้ดีและห่อหัวได้เร็วขึ้น
* ความสมบูรณ์ของดิน: ดินที่อุดมสมบูรณ์จะช่วยให้ผักกาดขาวปลีเจริญเติบโตได้ดี
ข้อสังเกต:
* หากสังเกตว่าใบผักกาดขาวเริ่มห่อเข้าหากัน แสดงว่าผักกาดขาวกำลังเริ่มห่อหัว
* เมื่อหัวผักกาดขาวปลีแน่นและมีขนาดตามที่ต้องการ ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้
หากคุณปลูกผักกาดขาวบิลโก้ในสภาพอากาศที่เหมาะสมและดูแลรักษาอย่างดี คุณก็จะได้ผักที่ห่อหัวสวยงามและมีรสชาติอร่อย
หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์
ขอให้สนุกกับทุกประสบการณ์เพาะปลูกนะคะ