ไฮโดรไลซ์ (Hydrolyzed) เป็นปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพสูงที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากกระบวนการผลิตที่เรียกว่า ไฮโดรไลซิส ซึ่งใช้เอนไซม์ หรือกรด/ด่างอ่อนๆ ในการย่อยสลายวัตถุดิบที่อุณหภูมิต่ำ
ข้อดีของกระบวนการนี้ คือ สามารถสลายโปรตีนและสารประกอบอินทรีย์ขนาดใหญ่ให้กลายเป็นโมเลกุลขนาดเล็ก เช่น กรดอะมิโน, เปปไทด์, วิตามิน, และแร่ธาตุต่างๆ โดยไม่ทำลายสารอาหารที่สำคัญและสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ ที่มีประโยชน์ต่อพืช ซึ่งแตกต่างจากการหมักแบบดั้งเดิม
เก็บได้นาน 3 ปีจากวันที่ผลิต
💧 ปุ๋ยสาหร่ายทะเล - ไฮโดรไลซ์
สกัดสารสำคัญจากสาหร่ายทะเลน้ำลึก ด้วยกระบวนการผลิตที่ทันสมัย ทำให้คงไว้ในส่วนประกอบที่จะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชอย่างต่อเนื่อง ทั้งเบทานีน ไคโตซาน เมนทินอล โพลีเซคาลาย และอื่นๆ ปุ๋ยสาหร่ายเปรียบเสมือนผู้ช่วยดูแลระบบรากพืช เพิ่มการดูดซึมสารอาหาร ช่วยในการสังเคราะห์แสง ทนต่อความเครียด สามารถปรับปรุงคุณภาพดินให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น รวมถึงสามารถช่วยกระตุ้นการงอกของเมล็ดได้
ทำไมต้องปุ๋ยสาหร่ายจากปันอินทรีย์
- กระบวนการผลิตที่ให้ประสิทธิภาพสูง
- ผลิตจากสาหร่ายทะเลลึกกว่า 5 ชนิด ทำให้ได้สารอาหารที่ครบครัน
- ช่วงบำรุงราก ทำให้รากแข็งแรง ลดความเครียดของพืช ให้พืชเจริญเติบโตเร็ว และแข็งแรง
- ช่วยทำให้พืชแข็งแรง สามารถทนทานต่อโรคและแมลงได้ดียิ่งขึ้น
- ช่วยบำรุงดิน ทำให้ดินโปร่ง ร่วนซุย เพิ่มแบคทีเรียที่ดีในดิน
ปุ๋ยเข้มข้นสูง มีความจำเป็นต้องนำไปเจือจางกับน้ำก่อนใช้งานเสมอ ในอัตราส่วนที่เหมาะสม
ปุ๋ยสาหร่าย 15-20 หยด = 1 มิลลิลิตร
ปุ๋ยสาหร่าย 1 มิลลิลิตร ผสมกับน้ำ 1 ลิตร
ความถี่ในการใช้ปุ๋ย 10-14 วัน/ครั้ง
พิจารณาอาการ สภาพของพืช หากพืชแข็งแรงดีอยู่แล้ว สามารถลดความถี่ลงได้
วิธีใช้
การรดราดทางดิน
การรดราดลงดินโดยตรงจะช่วยให้ธาตุอาหารซึมลงสู่รากพืชได้ทันที และยังช่วยเพิ่มกิจกรรมของจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ในดิน ทำให้ดินร่วนซุย และพืชดูดซึมอาหารได้ดีขึ้น
การรดราดทางดิน
การรดราดลงดินโดยตรงจะช่วยให้ธาตุอาหารซึมลงสู่รากพืชได้ทันที และยังช่วยเพิ่มกิจกรรมของจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ในดิน ทำให้ดินร่วนซุย และพืชดูดซึมอาหารได้ดีขึ้น
- รดช่วงเช้าหรือเย็น
ควรให้ปุ๋ยชนิดน้ำในช่วงที่อากาศไม่ร้อนจัด เช่น ช่วงเช้าตรู่ หรือช่วงเย็น เพื่อลดการระเหยของน้ำ และให้พืชมีเวลาดูดซึมธาตุอาหาร
- รดรอบๆโคนต้น
รดให้ทั่วบริเวณรากพืช ระมัดระวังอย่าให้ขัง หรือแฉะเกินไป
การฉีดพ่นทางใบ
การฉีดพ่นทางใบเป็นวิธีที่พืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะธาตุอาหารรองและธาตุอาหารเสริม
- เลือกใช้อุปกรณ์ฉีดพ่นละอองละเอียด
การใช้หัวฉีดที่พ่นละอองได้ละเอียด เพื่อให้ปุ๋ยกระจายตัวได้ทั่วถึง และเกาะติดใบได้ดียิ่งขึ้น - ฉีดพ่นช่วงเช้า
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการฉีดพ่น คือช่วงเช้าตรู่ที่อากาศยังเย็นอยู่ และปากใบพืชเปิดรับธาตุอาหารได้ดี หลีกเลี่ยงการฉีดพ่นช่วงกลางวันที่มีแดดจัด เพราะอาจทำให้ใบไหม้ได้ - ฉีดพ่นใต้ใบ
ด้านใต้ใบพืชมีปากใบจำนวนมาก การฉีดพ่นใต้ใบจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมได้ดีกว่า - ไม่ควรฉีดพ่นขณะพืชออกดอก
การฉีดพ่นในช่วงที่พืชกำลังออกดอก อาจรบกวนกระบวนการผสมเกสรได้
คำเตือน
เจือจางก่อนใช้ ห้ามใช้แบบเข้มข้นเด็ดขาด เพราะอาจทำให้พืชเกิดอาการช็อกหรือรากไหม้ได้
และการให้ปุ๋ยถี่มากเกินไปอาจทำให้พืชได้รับธาตุอาหารไม่สมดุล หรือเกิดการสะสมของเกลือในดินได้