H-19 Little Leaf Cucumber

LATIN NAME
Cucumis sativus
SCIENTIFIC NAME
Cucumis sativus

GERMINATION GUIDE
Soil Temperature
ช่วงอุณหภูมิดินที่เหมาะสมในการงอก
21-32 °C
Days to Germination
ระยะเวลาในการเพาะเมล็ด
5-10 วัน

DAYS TO MATURITY
57 วัน

SUN REQUIREMENT
แสงแดดตลอดวัน

DISEASE RESISTANCE
ความทนทานต่อการเกิดโรค

  • Angular Leaf Spot (High)
    โรคใบจุดเหลี่ยม เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อรา ทำให้เกิดจุดแผลบนใบ มีความทนทานสูง

  • Anthracnose (High)
    โรคแอนแทรคโนส เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อรา ทำให้เกิดแผลเน่าบนใบ ผล และลำต้น มีความทนทานสูง

  • Bacterial Wilt (High)
    โรคเหี่ยวแบคทีเรีย เป็นโรคที่เกิดจากแบคทีเรีย ทำให้พืชเหี่ยวเฉาและตายอย่างรวดเร็ว มีความทนทานสูง

  • Cucumber Mosaic Virus (Intermediate)
    โรคไวรัสโมเสคแตง เป็นโรคที่เกิดจากไวรัส ทำให้ใบด่างและต้นแคระแกร็น มีความทนทานปานกลาง

  • Powdery Mildew (Intermediate)
    โรคราแป้ง เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อรา ทำให้มีผงสีขาวคล้ายแป้งบนใบ มีความทนทานปานกลาง

  • Scab (High)
    โรคสแคป เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อรา ทำให้เกิดแผลตกสะเก็ดบนใบและผล มีความทนทานสูง

สายพันธุ์พืช
(ชื่อเรียกทางการค้า)



H-19 Little Leaf Cucumber
Organic Seed เมล็ดพันธุ์ออร์แกนิค
Open Pollinated พันธุ์ผสมเปิด

ให้ผลผลิตที่น่าเชื่อถือบนต้นที่กะทัดรัดเป็นพิเศษ ผลมีลักษณะทรงเหลี่ยม ความยาวปานกลาง 3-5 นิ้ว
เหมาะสำหรับการรับประทานสดและดองได้ดี มีสีเขียวมรกตสดใสที่เป็นเอกลักษณ์ เถาต้นมีขนาดกะทัดรัด แตกกิ่งก้านมากมาย และให้ผลผลิตได้ดีแม้ภายใต้สภาวะเครียด ใบมีขนาดครึ่งหนึ่งของขนาดปกติ

เหมาะสำหรับปลูกในแปลงกลางแจ้ง โรงเรือน หรือภาชนะ ได้รับการพัฒนาและเผยแพร่โดยมหาวิทยาลัยอาร์คันซอในปี 1991 ต้นสามารถให้ผลผลิตได้ภายใต้สภาวะเครียดและโดยไม่ต้องมีแมลงผสมเกสร รับประกันผลผลิตสูง เป็นพันธุ์ที่ติดผลได้โดยไม่ต้องผสมเกสร (Parthenocarpic) ได้รับการรับรองออร์แกนิกจาก USDA


วิธีเพาะปลูก

  • ต้องการดินที่อุ่น ระบายน้ำได้ดี มีความอุดมสมบูรณ์สูง และมีค่า pH 6–6.8
  • จำเป็นต้องมีการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอและเพียงพอเพื่อให้ได้ผลผลิตที่อุดมสมบูรณ์
  • แตงกวาไวต่อความเย็นมาก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าทั้งอุณหภูมิของดินและอากาศอุ่นขึ้นก่อนปลูก
  • การใช้คลุมดินพลาสติกและผ้าคลุมแถวปลูกจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงและศักยภาพในการให้ผลผลิตของแตงกวาอย่างมาก โดยให้ความอบอุ่นและป้องกันแมลง
  • สำหรับการผลิตในโรงเรือนหรืออุโมงค์สูง ขอแนะนำให้ใช้พันธุ์ดอกตัวเมีย (Gynoecious)
    และพันธุ์ที่ติดผลได้โดยไม่ต้องผสมเกสร (Parthenocarpic)

วันเก็บเกี่ยว

  • นับจากวันที่เพาะเมล็ดโดยตรง หากย้ายกล้าปลูก ให้ลบออกประมาณ 10 วันจากวันเก็บเกี่ยว

การย้ายกล้าปลูก

  • เพาะเมล็ดในที่ร่มในถาดเพาะ 50 หลุม 1–2 เมล็ด/หลุม 3–4 สัปดาห์ก่อนย้ายกล้าปลูก
  • รักษาอุณหภูมิให้สูงกว่า 21°C ในเวลากลางวัน และ 16°C ในเวลากลางคืน
  • ย้ายกล้าปลูกโดยเว้นระยะห่าง 12 นิ้วในแถวที่ห่างกัน 5–6 ฟุต
  • อย่ารบกวนรากเมื่อย้ายกล้าปลูก

การเพาะเมล็ดโดยตรง

  • รอจนกว่าดินจะอุ่น อย่างน้อย 21°C เมล็ดแตงกวาจะไม่งอกที่อุณหภูมิดินต่ำกว่า 10°C
  • หยอดเมล็ดแตงกวาให้ลึกประมาณ 1-2 เซนติเมตร 
  • หยอด 2 เมล็ด/ฟุต ในระยะแถวที่ห่างกัน 6 ฟุต
  • ถอนต้นให้เหลือระยะห่าง 12 นิ้ว
การบำรุง
  • การรดโคนต้น หรือฉีดพ่นใบ เลือกใช้ปุ๋ยปลา+ปุ๋ยสาหร่าย บำรุงพืชอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง เพื่อผลผลิตที่ดี เติมธาตุอาหารที่หลากหลาย บำรุงรากให้สมบูรณ์แข็งแรง สามารถดูดซึมธาตุอาหารในดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การให้ปุ๋ย เติมดิน ใส่ปุ๋ยหมักหรือดินหมัก เดือนละ 1 ครั้ง เลือกใช้ปุ๋ยที่ผ่านกระบวนการหมักที่สมบูรณ์และสะอาด ปราศจากโรคและแมลงปนเปื้อน
  • ให้ปุ๋ยทางใบ ควรฉีดพ่นใต้ใบในเวลาเช้าตรู่ เป็นช่วงเวลาที่พืชเปิดปากใบ ฉีดพ่นก่อนเวลาที่พืชจะพบกับแสงแดดจัด ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารรองและธาตุอาหารเสริม (เช่น แคลเซียม โบรอน) จะช่วยป้องกันการขาดธาตุอาหาร และช่วยให้ผลผลิตดี มีคุณภาพ

แมลงศัตรูพืช

  • แมลงเต่าแตงแดง

การเก็บเกี่ยว

  • เมื่อเริ่มออกผล ให้เก็บเป็นประจำ
    สิ่งสำคัญคือต้องเก็บเกี่ยวทุกวันหรือสองวัน ต้นที่ปล่อยให้มีผลสุกเกินไปจะทำให้การผลิตช้าลง
  • เก็บเกี่ยวผลแตงกวาในช่วงเช้าตรู่ก่อนที่แสงแดดจะส่องถึง เพื่อรสชาติและเนื้อสัมผัสที่ดีที่สุด

หลังการเก็บเกี่ยว

  • เก็บแตงกวาที่อุณหภูมิ 7–10°C และความชื้นสัมพัทธ์ 90% ได้นานถึง 2 สัปดาห์

หมายเหตุ

  • หากแตงกวาพันธุ์ที่ติดผลได้โดยไม่ต้องผสมเกสร (Parthenocarpic) ได้รับการผสมเกสรข้ามพันธุ์กับแตงกวาพันธุ์อื่น จะทำให้ได้ผลที่มีเมล็ด โดยทั่วไปแล้ว พันธุ์ที่ไม่มีเมล็ดจะปลูกแยกกันในโรงเรือนหรือโรงเรือนอุโมงค์ที่มีตาข่ายกันแมลงติดตั้งไว้ เพื่อป้องกันการผสมเกสรข้ามพันธุ์ระหว่างพันธุ์ที่มีเมล็ดและไม่มีเมล็ด

คำถามที่พบบ่อย

ทำไมแตงกวาของฉันถึงมีรสขมหรือรสชาติไม่ดี?

รสขมอาจเกิดจากหลายปัจจัย ก่อเกิดให้ต้นแตงกวาเครียด ได้แก่ อุณหภูมิที่ร้อนและแห้ง การให้น้ำมากเกินไป ดินที่มีปุ๋ยไม่ดี หรือถูกโรคแมลงทำร้าย แตงกวามีรากตื้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าดินชื้นแต่ไม่แฉะเกินไป ทดสอบดินของคุณเพื่อหาการขาดสารอาหาร

ทำไมต้นแตงกวาถึงมีใบจำนวนมาก แต่ไม่มีดอก?

พืชน่าจะได้รับไนโตรเจนมากเกินไป ซึ่งกระตุ้นให้มันเติบโตใบ และได้รับฟอสฟอรัสไม่เพียงพอ ซึ่งส่งเสริมการออกดอกและติดผล แนะนำให้เลือกปุ๋ยที่มีอัตราส่วนที่สมดุลของธาตุหลักสามชนิด เช่น 10-10-10 หรือที่ตัวเลขกลาง (ฟอสฟอรัส) มากกว่าตัวเลขแรก (ไนโตรเจน) เช่น 2-3-1




หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์
ขอให้สนุกกับทุกประสบการณ์เพาะปลูกนะคะ