Pisum sativum
SCIENTIFIC NAME
Pisum sativum
Soil Temperature
ช่วงอุณหภูมิดินที่เหมาะสมในการงอก
24-28 °C
Days to Germination
ระยะเวลาในการเพาะเมล็ด
5-7 วัน
Sugar Ann ได้รับรางวัล AAS Winner (All-America Selections Winner) ซึ่งเป็นรางวัลสำหรับพันธุ์พืชที่ดีเยี่ยม ได้รับการรับรองว่าเป็นผลิตภัณฑ์อินทรีย์จาก USDA (กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา)
ซึ่งรวมถึงถั่วชนิดต่างๆ เช่น ถั่วแขก ถั่วลูกไก่ ถั่วเลนทิล และถั่วลิสง
- แนะนำเลือกสายพันธุ์เตี้ย
- กระถาง 12 นิ้วขึ้นไป (หรือกว้างและลึกประมาณ 30 cm)
ดินร่วนปนทรายผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก 1:1
ค่า pH ระหว่าง 6.5-6.8 ปรับค่า pH ด้วยปูนขาวบดหรือขี้เถ้าไม้
การใส่เชื้อไรโซเบียม (Inoculate): ใส่เชื้อไรโซเบียมลงในเมล็ดถั่วก่อนปลูก เพื่อกระตุ้นการสร้างปมไนโตรเจนที่รากพืช ซึ่งจะช่วยบำรุงดิน ทำให้ต้นใหญ่ขึ้น และเพิ่มผลผลิต
โรคพืช
- โรครากเน่าของถั่ว (pea root rot): เกิดจากเชื้อรา Fusarium sp. หรือ Aphanomyces euteiches ทำให้ใบเหลืองและแห้งตายจากโคนต้นขึ้นไป การควบคุมที่ดีที่สุดคือการทำให้ดินระบายน้ำได้ดี และหมุนเวียนพืชโดยไม่ปลูกพืชตระกูลถั่วอย่างน้อยสามปี
- โรคราแป้ง (Powdery mildew): ทำให้เกิดเชื้อราสีขาวเป็นผงบนใบ ลำต้น และฝักในช่วงอากาศร้อน เลือกพันธุ์ที่ทนทานต่อโรค
สารอาหารในดินและความต้องการ
- เนื่องจากถั่วลันเตาปลูกในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิซึ่งมักมีสภาพเปียก การระบายน้ำที่ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญ ดินทรายเป็นดินที่ดีที่สุด
- เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี ควรปรับค่า pH ของดินให้สูงกว่า 6.0 โดยใช้ปูนขาว หรือขี้เถ้าไม้ในบริเวณที่ดินมีโพแทสเซียมต่ำ
- สำหรับไนโตรเจน ปริมาณ 2-3 กรัมต่อตารางเมตร ก็เพียงพอแล้ว ปริมาณที่สูงกว่าอาจทำให้ใบเขียวชอุ่ม แต่มีดอกน้อย และการติดผลน้อย
- ถั่วลันเตาตรึงไนโตรเจนในดินผ่านความสัมพันธ์แบบพึ่งพาอาศัยกันกับแบคทีเรีย เพื่อให้แน่ใจว่ามีแบคทีเรียที่มีอยู่ก่อนจำนวนเพียงพอ ให้ผสมเมล็ดกับสารกระตุ้นการสร้างปมไนโตรเจน (inoculants) ก่อนปลูก
การเพาะเมล็ดและการปลูก
- แช่เมล็ดในน้ำ 6-12 ชั่วโมงก่อน แล้วใส่กล่องบ่มในผ้าชื้น ปิดฝา 1 วัน
รอให้เมล็ดปริงอกก่อนนำไปเพาะ วิธีนี้จะช่วยเพิ่มอัตราการงอกได้ดีขึ้น ลดโอกาสเมล็ดเน่าอยู่ในดิน หรือถูกสัตว์รบกวน - นำเมล็ดที่ปริงอก ลงเพาะในถุงเพาะ, ถาดเพาะ หรือหยอดเมล็ดลงแปลงปลูกโดยตรงเลยก็ได้
- หากเพาะเมล็ดในถุงเพาะ, ถาดเพาะ ควรย้ายกล้าเมื่อมีใบจริง 2-3 ใบ
- ทำค้างให้เกาะตั้งแต่เริ่มปลูก เพื่อให้ต้นเจริญเติบโตได้ดี อากาศถ่ายเทดี เก็บเกี่ยวได้สะดวก
ความลึกในการหว่านเมล็ด
- ความลึกในการหว่านเมล็ด 2.5- 3 cm
ระยะห่างระหว่างต้น
- หากต้องการให้ต้นห่างกัน 5-10 cm
ระยะห่างระหว่างแถว
- 45-60 cm
ช่วงเวลาในการหว่านเมล็ด
- หว่านเมล็ดโดยตรงทันทีที่ดินสามารถพรวนได้ในฤดูใบไม้ผลิ
- เมล็ดจะงอกในอุณหภูมิดินต่ำถึง 4-5°C แม้ว่าจะช้าก็ตาม เมื่อดินมีอุณหภูมิประมาณ 15-16°C เมล็ดจะงอกได้เร็วขึ้น
- สภาพอากาศร้อนและแห้งส่งผลเสียต่อคุณภาพและผลผลิต ดังนั้นจึงเป็นประโยชน์ที่จะทำให้พืชโตเต็มที่เร็วที่สุดเท่าที่ตารางการปลูกจะอนุญาต ในบางภูมิภาค คุณสามารถปลูกพืชในฤดูใบไม้ร่วงได้สำเร็จโดยการปลูกในช่วงปลายฤดูร้อน
โดยทั่วไปแล้ว ถั่วลันเตาหวานสายพันธุ์ 'Sugar Ann' ไม่จำเป็นต้องมีค้างช่วยพยุงลำต้น เนื่องจากมีลักษณะการเจริญเติบโตเป็นพุ่มเตี้ยและแข็งแรงพอสมควร อย่างไรก็ตาม ในบางสถานการณ์ การมีค้างเล็กๆ หรือวัสดุพยุงบ้าง ก็เป็นประโยชน์สำหรับการดูแลและเก็บเกี่ยวที่สะดวกยิ่งขึ้น
- ช่วยให้เก็บเกี่ยวได้ง่ายขึ้น: แม้ต้นจะไม่ล้ม แต่การมีค้างให้เกาะจะช่วยให้ฝักไม่ติดดิน ทำให้เก็บเกี่ยวได้สะดวกและสะอาด
- เพิ่มการระบายอากาศ: การพยุงลำต้นให้สูงจากพื้นเล็กน้อย ช่วยให้มีการระบายอากาศที่ดี ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคที่เกิดจากความชื้น
- ประหยัดพื้นที่: หากปลูกในพื้นที่จำกัด การให้ต้นเลื้อยขึ้นค้างจะช่วยประหยัดพื้นที่ในแนวนอนได้
ดังนั้น หากคุณปลูก 'Sugar Ann' ในพื้นที่เปิดโล่งและต้องการความสะดวกในการเก็บเกี่ยว หรือต้องการเพิ่มการระบายอากาศ ก็สามารถทำค้างเตี้ยๆ หรือใช้กิ่งไม้เล็กๆ ปักช่วยพยุงได้ แต่โดยพื้นฐานแล้ว สายพันธุ์นี้สามารถเติบโตได้ดีโดยไม่มีค้าง
การดูแลรักษา
- ให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงออกดอกและติดฝัก แต่ระวังอย่าให้น้ำขังแฉะ
- ใส่ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารครบถ้วน โดยเน้นปุ๋ยที่มีฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมในช่วงออกดอกและติดฝัก
- การรดโคนต้น หรือฉีดพ่นใบ เลือกใช้ปุ๋ยปลา+ปุ๋ยสาหร่าย บำรุงพืชอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง เพื่อผลผลิตที่ดี เติมธาตุอาหารที่หลากหลาย บำรุงรากให้สมบูรณ์แข็งแรง สามารถดูดซึมธาตุอาหารในดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การให้ปุ๋ย เติมดิน ใส่ปุ๋ยหมักหรือดินหมัก เดือนละ 1 ครั้ง เลือกใช้ปุ๋ยที่ผ่านกระบวนการหมักที่สมบูรณ์และสะอาด ปราศจากโรคและแมลงปนเปื้อน
ให้ปุ๋ยทางใบ ควรฉีดพ่นใต้ใบในเวลาเช้าตรู่ เป็นช่วงเวลาที่พืชเปิดปากใบ ฉีดพ่นก่อนเวลาที่พืชจะพบกับแสงแดดจัด ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารรองและธาตุอาหารเสริม (เช่น แคลเซียม โบรอน) จะช่วยป้องกันการขาดธาตุอาหาร และช่วยให้ผลผลิตดี มีคุณภาพ
- กำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการแย่งอาหารและน้ำ
- ป้องกันและกำจัดแมลงและโรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น เพลี้ยอ่อน หนอนเจาะฝัก และโรคราแป้ง
การเก็บเกี่ยว
- เก็บเกี่ยวได้เมื่อฝักมีขนาดใหญ่ อวบอ้วน และมีสีเขียวสดใส
- ควรเก็บเกี่ยวในช่วงเช้าหรือเย็น เพื่อรักษาความสดและรสชาติของ Sugar Snap Pea
- เก็บเกี่ยวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นให้ต้น Sugar Snap Pea ออกฝักใหม่
การเก็บรักษา
- เก็บฝักถั่วลันเตาไว้ที่อุณหภูมิใกล้จุดเยือกแข็งประมาณ 1 สัปดาห์
เคล็ดลับเพิ่มเติม
- เก็บเกี่ยว Sugar Snap Pea ในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด
- คลุมดินด้วยฟางหรือวัสดุคลุมดินอื่นๆ เพื่อรักษาความชื้นในดินและป้องกันวัชพืช
- ปลูก Sugar Snap Pea ในช่วงฤดูที่มีอากาศเย็น จะช่วยให้ได้ผลผลิตที่ดีกว่า
ข้อควรระวัง
- หลีกเลี่ยงการปลูก Sugar Snap Pea ในที่ที่มีน้ำขังแฉะ เพราะจะทำให้รากเน่า
- ระวังแมลงและโรคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น และรีบกำจัดทันทีที่พบ
- ปลูกพืชหมุนเวียน เพื่อป้องกันการสะสมของโรคและแมลงในดิน