Chamomile

LATIN NAME
Matricaria recutita
SCIENTIFIC NAME
Matricaria recutita

GERMINATION GUIDE
Soil Temperature
ช่วงอุณหภูมิดินที่เหมาะสมในการงอก
30-35 °C
Days to Germination
ระยะเวลาในการเพาะเมล็ด
10-14 วัน

DAYS TO MATURITY
60-75 วัน

SUN REQUIREMENT
แสงแดดอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน

สายพันธุ์พืช
(ชื่อเรียกทางการค้า)




Common Chamomile
Organic Seed เมล็ดพันธุ์ออร์แกนิค
Open Pollinated (OP) พันธุ์ผสมเปิด

นี่คือคาโมมายล์พันธุ์มาตรฐาน ให้ผลผลิตที่ดี ดอกเล็กคล้ายดอกเดซี่ มีกลิ่นหอม รสชาติหวาน เป็นพันธุ์ที่นิยมปลูกเพื่อใช้ทำชาจากดอกไม้ ช่วยในการย่อยอาหาร และทำหน้าที่เป็นยานอนหลับอ่อนๆ

เก็บเกี่ยวโดยใช้คราดเก็บคาโมมายล์ (Chamomile Rake) ยังมีชื่อเรียกที่รู้จักกันในชื่อ คาโมมายล์เยอรมัน และ คาโมมายล์ฮังการี

ดอกไม้กินได้ ดอกไม้สามารถนำมาใช้ตกแต่งสลัด ของหวาน และเครื่องดื่มได้ รสชาติหวานเล็กน้อยและมีกลิ่นคาโมมายล์

หมายเหตุ
คาโมมายล์โรมัน (Chamaemelum nobile) มีกลิ่นหอมคล้ายแอปเปิล นิยมปลูกเพื่อใช้ทำน้ำมันหอมระเหย



วิธีเพาะปลูก

Chamomile
คาโมมายล์เป็นพืชที่ปลูกได้ในประเทศไทย แต่ต้องมีการดูแลที่เหมาะสมเพื่อให้เจริญเติบโตได้ดี

สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

  • แสงแดด คาโมมายล์ชอบแสงแดดจัด ควรปลูกในบริเวณที่ได้รับแสงแดดอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน
  • ดิน ดินร่วนปนทราย ระบายน้ำได้ดี และมีค่า pH ระหว่าง 6.0-7.0
  • อุณหภูมิ คาโมมายล์เจริญเติบโตได้ดีในอุณหภูมิ 15-25 องศาเซลเซียส

การเตรียมดิน

  • พรวนดินให้ร่วนซุย กำจัดวัชพืช และปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก
  • หากดินเป็นดินเหนียว ควรผสมทรายหยาบเพื่อเพิ่มการระบายน้ำ

การปลูก

  • สามารถปลูกจากเมล็ด หรือต้นกล้า
  • หากปลูกจากเมล็ด ควรเพาะเมล็ดในถาดเพาะก่อน แล้วย้ายต้นกล้าลงแปลงปลูกเมื่อต้นกล้ามีใบจริง 2-3 ใบ

การเพาะเมล็ด
กระถางขนาดเล็ก (เส้นผ่านศูนย์กลาง 10-15 ซม.) เหมาะสำหรับเพาะเมล็ด หรือปลูกต้นกล้าขนาดเล็ก เมื่อต้นกล้าโตขึ้น ควรย้ายไปยังกระถางที่ใหญ่ขึ้น
  • การย้ายกล้า (แนะนำ)
    • ควรเพาะเมล็ดในถาดเพาะในร่ม 4-6 สัปดาห์ก่อนย้ายลงแปลง
    • กดเมล็ดเบาๆ ลงบนผิวดินเพาะ แต่ไม่ต้องกลบดิน เพราะเมล็ดต้องการแสงในการงอก
    • พ่นละอองน้ำเพื่อให้ผิวดินชุ่มชื้นอยู่เสมอ
    • รักษาอุณหภูมิในถาดเพาะให้สลับกันระหว่าง 20°C ในเวลากลางวัน และ 30°C ในเวลากลางคืน จนกว่าเมล็ดจะงอก
    • ย้ายกล้าเมื่อต้นกล้าสูง 1-2 นิ้ว มีใบจริง 3-4 ใบ เพราะต้นกล้าที่โตกว่านี้จะย้ายได้ไม่ดี
    • ระยะปลูกสุดท้ายคือห่างกัน 8 นิ้วในแถวที่ห่างกัน 18 นิ้ว

  • การเพาะเมล็ดโดยตรง
    • เพาะเมล็ดโดยตรงทันทีที่ดินสามารถพรวนได้ในฤดูใบไม้ผลิ
    • หว่านเมล็ดเป็นแถบแคบๆ และกลบดินตื้นๆ เพราะเมล็ดต้องการแสงในการงอก
    • รักษาความชื้นจนกว่าเมล็ดจะงอก
    • แยกต้นกล้าให้เหลือกลุ่มละ 2-3 ต้น โดยให้แต่ละกลุ่มห่างกัน 8 นิ้วในแถวที่ห่างกัน 18 นิ้ว

ความต้องการแสง

  • แสงแดดอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน

ความต้องการดิน

  • ดินร่วนปนทราย อุดมสมบูรณ์ และระบายน้ำได้ดี

ความสูงของต้น

  • 15-24 นิ้ว

ระยะปลูก

  • 8 นิ้ว

เขตความทนทานต่อสภาพอากาศ

  • ไม้ล้มลุก

การดูแลรักษา

  • การรดน้ำ: รดน้ำให้ดินชุ่มชื้นสม่ำเสมอ แต่ระวังอย่าให้ดินแฉะ
  • การใส่ปุ๋ย: ใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเป็นระยะ เพื่อบำรุงต้นให้แข็งแรง
  • การกำจัดวัชพืช: กำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้แย่งอาหารและน้ำจากต้นคาโมมายล์

การเก็บเกี่ยว

  • เก็บดอกเมื่อบานเต็มที่ เก็บในตอนเช้าที่อากาศเย็น ยังไม่ได้รับแสงแดดจัด
  • สามารถตัดได้สามถึงสี่ครั้งในฤดูปลูกเดียว
  • สำหรับการอบแห้ง วางหัวดอกไม้เป็นชั้นเดียวบนตะแกรงในที่แห้ง เลี่ยงการรับแสงแดดโดยตรง และมีการระบายอากาศที่ดี
  • คนเป็นระยะๆหลายวันจนดอกแห้ง

ข้อควรระวัง

  • คาโมมายล์อาจไม่ทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้นจัดในประเทศไทย ควรปลูกในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี
  • ระวังโรคและแมลงศัตรูพืช เช่น โรคราแป้ง และเพลี้ยอ่อน

เคล็ดลับเพิ่มเติม

  • สามารถปลูกคาโมมายล์ในกระถางได้ โดยเลือกกระถางที่มีขนาดเหมาะสมและดินระบายน้ำได้ดี
  • หากคุณปลูกคาโมมายล์หลายต้นในกระถางเดียวกัน ควรเลือกกระถางขนาดใหญ่ (เส้นผ่านศูนย์กลาง 30 ซม. ขึ้นไป) เว้นระยะห่างระหว่างต้นอย่างน้อย 15-20 ซม.
  • เมื่อต้นคาโมมายล์โตขึ้น ควรตรวจสอบว่ารากเต็มกระถางหรือไม่ หากรากเต็มกระถาง ควรย้ายไปยังกระถางที่ใหญ่ขึ้น
  • การปลูกคาโมมายล์ในประเทศไทยอาจต้องมีการดูแลเป็นพิเศษในช่วงฤดูฝน เพื่อป้องกันไม่ให้ดินแฉะเกินไป

หมายเหตุ

  • คาโมมายล์สามารถแพร่พันธุ์ด้วยตัวเองได้ง่าย และอาจกลายเป็นพืชรุกรานได้หากปล่อยให้แพร่พันธุ์ตามธรรมชาติ

หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์
ขอให้สนุกกับทุกประสบการณ์เพาะปลูกนะคะ