Summer Thyme

LATIN NAME
Thymus vulgaris
SCIENTIFIC NAME
Thymus spp.

GERMINATION GUIDE
Soil Temperature
ช่วงอุณหภูมิดินที่เหมาะสมในการงอก
18-21 °C
Days to Germination
ระยะเวลาในการเพาะเมล็ด
14-21 วัน

DAYS TO MATURITY

90-95 วัน

SUN REQUIREMENT
ชอบแสงแดด อย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน
ในสภาพอากาศที่ร้อนจัด ไทม์อาจได้รับประโยชน์จากแสงแดดรำไร ซึ่งหมายความว่าในภูมิภาคที่มีความร้อนในช่วงฤดูร้อนที่รุนแรง การให้ร่มเงาในช่วงบ่ายอาจช่วยป้องกันไม่ให้พืชเกิดความเครียดได้

สายพันธุ์พืช

(ชื่อเรียกทางการค้า)

Summer Thyme

Organic Seed

Open Pollinated (OP)

Summer Thyme เหมาะสำหรับทำอาหาร รสชาติเผ็ดร้อนและฉุนกว่าไทม์ German Winter

ต้นมีขนาดเล็กกว่า เป็นไม้ล้มลุกหลายปี ได้รับการรับรองออร์แกนิคจาก USDA

วิธีเพาะปลูก
Thyme สมุนไพรไทม์

ไทม์เป็นสมุนไพรทำอาหารที่ใช้กันอย่างแพร่หลายชนิดหนึ่ง มันถูกปลูกอย่างแพร่หลายเป็นไม้ประดับและไม้ใช้ประโยชน์ในสวนครัว และผึ้งยังใช้น้ำหวานจากไทม์ในการทำน้ำผึ้งรสเลิศอีกด้วย ไทม์ปลูกง่าย และปรับตัวได้ดีกับดินและสภาพอากาศส่วนใหญ่ และเป็นไม้ล้มลุกหลายปี

การเพาะเมล็ด
ไทม์สามารถปลูกได้จากการเพาะเมล็ดในที่ร่ม ในช่วงแรกเริ่ม

คลิปแนะนำ
LearnHow2_How to Grow Thyme from Seeds 
https://youtu.be/qv_p3a674DQ?si=wGg0GsxBZVN62uH3

การเพาะเมล็ดในที่ร่ม

• เพาะเมล็ดไทม์ในที่ร่ม
• หว่านเมล็ดลึกประมาณ 0.5-0.6 เซนติเมตร ในวัสดุเพาะเมล็ด หรือพีทมอส
• รักษาความชื้นของดินที่อุณหภูมิ ประมาณ 21 องศาเซลเซียส
• โดยปกติเมล็ดจะงอกภายใน 14-21 วัน
  
  
• ทันทีที่ต้นกล้างอก ให้แสงสว่างให้เพียงพอโดยวางไว้ริมหน้าต่างที่มีแสงแดดส่องถึง หรือให้แสงไฟฟลูออเรสเซนต์สำหรับต้นกล้า โดยวางหลอดไฟห่างจากต้นกล้า 3-4 นิ้ว (ประมาณ 7.5-10 เซนติเมตร) เปิดไฟ 16 ชั่วโมงต่อวัน และปิด 8 ชั่วโมงในเวลากลางคืน ปรับระดับหลอดไฟให้สูงขึ้นเมื่อต้นกล้าโตขึ้น หลอดไส้ไม่เหมาะสำหรับกระบวนการนี้เพราะจะร้อนเกินไป ต้นไม้ส่วนใหญ่ต้องการช่วงเวลามืดในการเจริญเติบโต ดังนั้นอย่าเปิดไฟตลอด 24 ชั่วโมง
  
  
• ต้นกล้าไม่ต้องการปุ๋ยมากนัก สามารถบำรุงเมื่อต้นกล้ามีอายุได้ 4 สัปดาห์
  แนะนำใช้ปุ๋ยชนิดน้ำ เช่น ปุ๋ยปลา ปุ๋ยสาหร่าย ตามคำแนะนำของผู้ผลิต
  
  
• หากคุณปลูกในถาดเพาะขนาดเล็ก คุณอาจต้องย้ายต้นกล้าลงในกระถางขนาด 3 หรือ 4 นิ้ว (ประมาณ 7.5-10 เซนติเมตร) เมื่อต้นกล้ามีใบจริงอย่างน้อย 2 คู่ ก่อนย้ายลงสวน เพื่อให้รากมีพื้นที่เพียงพอในการเจริญเติบโต
  
  
• ก่อนปลูกในสวน ต้นกล้าจำเป็นต้อง "ปรับสภาพ" ให้คุ้นเคยกับสภาพกลางแจ้ง โดยย้ายต้นกล้าไปไว้ในที่ร่มรื่นกลางแจ้งเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ระวังป้องกันต้นกล้าจากลมและแสงแดดจัดในตอนแรก หากมีน้ำค้างแข็งในตอนกลางคืน ให้คลุมหรือนำกระถางเข้ามาในที่ร่ม แล้วนำออกไปอีกครั้งในตอนเช้า
  
  กระบวนการปรับสภาพนี้จะทำให้โครงสร้างเซลล์ของพืชแข็งแรงขึ้น และลดอาการช็อกจากการย้ายปลูกและอาการไหม้แดด
  
  
• เด็ดยอดหรือตัดยอดที่โตตั้งขึ้น เพื่อให้ต้นแตกเป็นพุ่มสวยงาม
  
  
  

การปลูกไทม์ลงในสวน หรือลงแปลง

• เลือกสถานที่ที่มีแสงแดดเต็มที่ และดินระบายน้ำได้ดี
• เตรียมแปลงปลูกโดยพลิกดินให้ลึกประมาณ 20 เซนติเมตร ใช้คราดเกลี่ยให้เรียบเพื่อกำจัดก้อนหญ้าและหิน
• ขุดหลุมสำหรับแต่ละต้นให้ใหญ่พอที่จะรองรับก้อนรากได้เต็มที่
• นำต้นออกจากกระถางอย่างระมัดระวัง และคลายก้อนรากเบาๆด้วยมือ เพื่อกระตุ้นการพัฒนารากที่ดี
• วางต้นไม้ให้ห่างกันประมาณ 30 เซนติเมตร
• วางส่วนบนของก้อนรากให้เสมอกับระดับดินรอบๆ เติมดินให้ถึงส่วนบนของก้อนราก กดดินลงให้แน่นด้วยมือ
• ใช้ป้ายชื่อต้นไม้เป็นเครื่องหมายบอกตำแหน่ง
• รดน้ำให้ชุ่ม และคลุมดินด้านบนด้วยวัสดุคลุมดินบางๆ เช่น ฟาง, ใบไผ่, ใบก้ามปู ใบไม้แห้งที่มี
  เพื่อช่วยรักษาความชื้น และลดการเกิดวัชพืช
  
  
  

การปลูกไทม์ให้เจริญเติบโตดี

• ควบคุมวัชพืช ควบคุมวัชพืชในช่วงฤดูปลูก วัชพืชแย่งน้ำ พื้นที่ และสารอาหารจากต้นไทม์ ดังนั้นให้ควบคุมวัชพืชโดยการพรวนดินบ่อยๆ หรือใช้วัสดุคลุมดินเพื่อป้องกันการงอกของเมล็ดวัชพืช
  
  
• คลุมดิน วัสดุคลุมดินยังช่วยรักษาความชื้นในดินและรักษาอุณหภูมิของดินให้สม่ำเสมอ สำหรับสมุนไพร การคลุมดินด้วยเปลือกไม้เก่าหรือใบไม้ฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ จะทำให้แปลงปลูกดูเป็นธรรมชาติ และจะช่วยปรับปรุงดินเมื่อย่อยสลายไปตามกาลเวลา ควรคลุมดินให้ห่างจากลำต้นของต้นไทม์เสมอเพื่อป้องกันการเน่า
  
  
• รดน้ำ รดน้ำต้นไทม์ให้เพียงพอในช่วงฤดูปลูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่แห้งแล้ง ต้นไทม์ต้องการน้ำฝนประมาณ 1 นิ้ว (ประมาณ 2.5 เซนติเมตร) ต่อสัปดาห์ในช่วงฤดูปลูก ใช้เครื่องวัดปริมาณน้ำฝนเพื่อตรวจสอบว่าคุณจำเป็นต้องรดน้ำเพิ่มหรือไม่ ควรให้น้ำด้วยระบบน้ำหยดหรือน้ำซึม ซึ่งส่งน้ำด้วยแรงดันต่ำที่ระดับดิน หากคุณรดน้ำด้วยสปริงเกอร์เหนือศีรษะ ให้รดน้ำในช่วงเช้า เพื่อให้ใบไม้มีเวลาแห้งก่อนช่วงเย็น เพื่อลดปัญหาโรค ควรทำให้ดินชื้นแต่ไม่แฉะ
  
  
• อายุต้นไทม์ ไทม์จะกลายเป็นไม้เนื้อแข็ง และจำเป็นต้องแยกกอ หรือเปลี่ยนต้นใหม่หลังจากปลูกไปแล้ว 3-4 ปี หากคุณสังเกตเห็นว่าต้นไทม์เริ่มเสื่อมโทรม ให้ตัดแต่งกิ่งต้นไทม์ที่มีอยู่ให้หนัก เพื่อฟื้นฟูต้นไทม์
  
  
• ตรวจสอบศัตรูพืชและโรค ตรวจสอบศัตรูพืชและโรค ติดต่อสำนักงานส่งเสริมการเกษตรในพื้นที่ของคุณ เพื่อขอคำแนะนำในการควบคุมศัตรูพืชที่แนะนำสำหรับพื้นที่ของคุณ

การเก็บเกี่ยว
ในปีแรก ให้ตัดกิ่งเพียงเล็กน้อยเพื่อให้ต้นรอดพ้นฤดูหนาว ในปีต่อๆไป ให้เก็บเกี่ยวเมื่อดอกเริ่มบาน ตัดให้เหลือ 10-12 เซนติเมตรเหนือพื้นดิน

เคล็ดลับ

• การเก็บเกี่ยว
  เก็บเกี่ยวใบไทม์ตามต้องการตลอดฤดูปลูก ไทม์สามารถใช้สดหรือแห้งก็ได้
  
  
• การทำให้แห้ง
  • ตัดกิ่งทั้งกิ่งในเช้าวันที่แดดจ้า มัดกิ่งหลวมๆ เป็นกลุ่มเล็กๆ และแขวนในที่แห้งและมีอากาศถ่ายเท โดยไม่โดนแสงแดดโดยตรง
  • หรือวางบนผ้าขาวบางหรือตะแกรงหน้าต่างในที่แห้งและร่มรื่น
  • หรืออบสมุนไพรในเตาอบเป็นเวลา 2-3 ชั่วโมงบนถาดคุกกี้โดยใช้ความร้อนต่ำสุด และเปิดประตูเตาอบไว้
  • หรือใช้เครื่องอบแห้งตามคำแนะนำของผู้ผลิต
  • เมื่อแห้งสนิทแล้ว ให้เก็บในภาชนะปิดสนิทในที่แห้งและมืด เช่น ตู้เก็บของ
    
    
• การแช่แข็ง
  ไทม์ยังสามารถแช่แข็งในถาดทำน้ำแข็งในน้ำหรือน้ำมันมะกอกได้ โดยให้เด็ดใบออกจากกิ่งก่อน
  
  
• การใช้ประโยชน์อื่นๆ
  ไทม์ยังสามารถนำไปใส่ในน้ำส้มสายชู เนยสมุนไพร และใช้ในการแช่น้ำผึ้งได้อีกด้วย

คำถามที่พบบ่อย

ฉันสามารถปลูกไทม์ในบ้านได้ไหม?

ไทม์สามารถปลูกในบ้านได้ดี ในบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึง

ฉันสามารถใช้ไทม์เป็นพืชปลูกร่วมได้อย่างไร?

ปลูกไทม์ใกล้กับพืชตระกูลกะหล่ำ เพื่อไล่แมลงที่โจมตีพืชเหล่านั้น ไทม์ยังสามารถปลูกร่วมกับมะเขือยาว หัวหอม มันฝรั่ง เสจ และมะเขือเทศได้อีกด้วย ซึ่งจะช่วยปรับปรุงรสชาติและความแข็งแรงของพืช และไล่แมลง

 

ดอกไทม์กินได้ไหม?

ดอกไทม์กินได้ และสามารถนำไปโรยบนสลัด หรือใส่ในชาได้

ฉันจะทำไทม์ทรงพุ่ม (topiary) ได้อย่างไร?

ตัดแต่งกิ่งด้านข้างเพื่อกระตุ้นการเติบโตในแนวตั้ง ค้ำต้นไทม์ และยึดกับหลักค้ำด้วยเชือกผูกแบบอ่อน ปล่อยให้ต้นไทม์เติบโตในแสงแดดเต็มที่ พร้อมกับรดน้ำให้เพียงพอ เมื่อต้นไทม์สูงประมาณ 60 เซนติเมตร ให้ตัดยอดเพื่อกระตุ้นกิ่งด้านข้าง เด็ดกิ่งออกจากสองในสามส่วนล่างของลำต้น และเหลือส่วนบนหนึ่งในสามไว้สำหรับจัดทรง ตัดแต่งปลายยอดที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาทรงพุ่มให้หนาแน่น และสวยงาม

หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์

ขอให้สนุกกับทุกประสบการณ์เพาะปลูกนะคะ