Basil

LATIN NAME
Ocimum basilicum
SCIENTIFIC NAME
Ocimum basilicum

GERMINATION GUIDE
Soil Temperature
ช่วงอุณหภูมิดินที่เหมาะสมในการงอก
18-21 °C
Days to Germination
ระยะเวลาในการเพาะเมล็ด
5-10 วัน

DAYS TO MATURITY
65-68 วัน

HYDROPONIC PERFOEMER
ปลูกในระบบไฮโดรโปนิกส์ได้

SUN REQUIREMENT
แสงแดดตลอดวัน

สายพันธุ์พืช
(ชื่อเรียกทางการค้า)




Genovese Basil
Organic Seed เมล็ดพันธุ์ออร์แกนิค
Open Pollinated พันธุ์ผสมเปิด

เจโนเวส/เจโนเวเซ อิตาเลียนคลาสสิก
คนรักโหระพาต่างแนะนำเป็นเสียงเดียวกันว่า จีโนเวสเป็นพันธุ์ที่ดีที่สุดสำหรับเพสโต้!

ต้นให้ผลผลิตใบสีเขียวเข้มเป็นมันเงาอย่างแข็งแรง มีลักษณะเป็นรูปช้อน เนื้อสัมผัสนุ่มเป็นพิเศษ
และรสชาติโดดเด่น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับทำซอสและปรุงอาหาร ด้วยมีรสชาติและรูปลักษณ์ดั้งเดิม ต้นสูงและค่อนข้างโตช้า ใบสีเขียวเข้มขนาดใหญ่ประมาณ 3 นิ้ว สายพันธุ์ทั่วไปนี้อาจมีความแปรปรวนในรูปร่างใบและขนาดต้น แม้ว่าจะเหมาะสำหรับปลูกในแปลงและสวน ความสูงต้น 25-30 เซนติเมตร

ดอกไม้กินได้ ใช้ดอกไม้ในสูตรอาหารใดๆ ที่ต้องการเบซิล หรือใช้ตกแต่งเครื่องดื่ม, สลัด, ซุป, พาสต้า และของหวาน รสชาติเข้มข้นเหมือนเบซิล

นอกจากนี้ยังมีแบบเคลือบเม็ดที่สอดคล้องกับมาตรฐาน NOP (National Organic Program) ได้รับการรับรองเกษตรอินทรีย์จาก USDA (กระทรวงเกษตรสหรัฐ)



Lemon Basil
Organic Seed เมล็ดพันธุ์ออร์แกนิค
Open Pollinated พันธุ์ผสมเปิด

เลม่อนเบซิล หรือ โหระพาเลม่อน ❌ ไม่ใช่ใบแมงลัก

โหระพาเลม่อน มีใบบางเรียวรี มีกลิ่นหอมแรงชื่นใจ และมีรสชาติคล้ายมะนาว อร่อยมากเมื่อกินกับปลา หรือใส่ในน้ำสลัด ช่อดอกของมันก็สามารถนำไปจัดใส่แจกันได้ เพราะมีกลิ่นหอมมะนาวอ่อนๆเป็นโหระพาพันธุ์ที่ใบเล็ก และต้นสูงได้ถึงประมาณ 38 เซนติเมตร

ชื่อวิทยาศาสตร์: Ocimum × citriodorum หรือบางครั้งจัดเป็น Ocimum basilicum var. citriodorum มีถิ่นกำเนิดหลักอยู่ใน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในแถบ อินโดนีเซีย และ ไทย และเป็นพืชลูกผสมระหว่าง: โหระพาไทย (Thai basil หรือ Ocimum basilicum) กับ โหระพาแอฟริกัน (African basil หรือ Ocimum americanum)

พืชชนิดนี้จึงมีกลิ่นหอมแบบมะนาวเฉพาะตัว นิยมใช้ในอาหารพื้นเมืองของอินโดนีเซีย (เช่น ลาบะนาซี – Lalab nasi) และเวียดนาม รวมถึงใช้แต่งกลิ่นในอาหารฟิวชั่นหรือชาสมุนไพรในหลายประเทศ





วิธีเพาะปลูก
Basil โหระพา

เป็นพืชล้มลุกที่ชอบอากาศอบอุ่นและดินร่วนซุย เหมาะสำหรับทำอาหาร, ตัดดอก และใช้เป็นสมุนไพรแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ต้องการดินระบายน้ำดีแต่ชุ่มชื้นและอุดมสมบูรณ์ ไม่ทนแล้ง ต้องรักษาระดับความชื้นให้สม่ำเสมอ เพื่อการเจริญเติบโตที่ดี

การเพาะเมล็ด
หยอดเมล็ดลึก 1/4 นิ้ว แนะนำให้เพาะกล้าก่อนย้ายปลูก ถ้าเพาะเมล็ดโดยตรง ให้หยอด 2-3 เมล็ดต่อ 1 นิ้ว แล้วถอนให้เหลือระยะห่าง 4-8 นิ้ว

ระยะปลูก
แนะนำให้ย้ายกล้าปลูกโดยเว้นระยะ 4-8 นิ้ว ถ้าเพาะเมล็ดโดยตรง ให้หยอด 2-3 เมล็ดต่อ 1 นิ้ว
แล้วถอนให้เหลือระยะห่าง 4-8 นิ้ว

ระยะห่างระหว่างแถว
18 นิ้ว

ช่วงเวลาเพาะปลูก
เพาะกล้าในร่ม 6 สัปดาห์ก่อนย้ายปลูก หรือเพาะเมล็ดโดยตรงช่วงกลางฤดูใบไม้ผลิถึงปลายฤดูร้อน โหระพาอ่อนแอต่อความเย็น ใช้ผ้าคลุมแถวเพื่อยืดฤดูการปลูก เด็ดยอดเพื่อกระตุ้นการแตกกิ่งและการผลิตใบ

การเก็บเกี่ยว
เริ่มเก็บเกี่ยวได้เมื่อต้นตั้งตัวได้ โดยเด็ดยอดหรือตัดกิ่ง แต่ปล่อยให้ต้นผลิตใบต่อไป เก็บเกี่ยวทั้งต้นก่อนที่ต้นจะเริ่มออกดอก (รสชาติจะเปลี่ยนไปเมื่อออกดอก) ตัดทั้งต้นเหนือพื้นดิน 4-6 นิ้ว เพื่อให้แตกยอดใหม่

การเก็บรักษา
เก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องโดยไม่ต้องล้าง เพื่อป้องกันการเกิดสีน้ำตาล อย่าเก็บไว้ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 10°C

แมลงศัตรู
  • เพลี้ย ควบคุมโดยการกำจัดด้วยมือ (ฉีดน้ำ แต่ระวังเชื้อราและราน้ำค้าง), สบู่น้ำมัน หรือน้ำมันพืชสวน หรือซื้อเต่าทองหรือตัวต่อเบียนมาช่วย
  • แมลงเต่าทองญี่ปุ่น กินใบเป็นรู ควบคุมโดยการเก็บแมลงออกและจุ่มในน้ำสบู่
โรค
  • ราน้ำค้าง ปัญหาใหญ่ เลือกพันธุ์ต้านทาน และระบายอากาศให้ดี
  • โรคเหี่ยวฟิวซาเรียม ทำให้ต้นแคระแกร็นและเหี่ยว เลือกพันธุ์ต้านทาน
  • ราสีเทา เกิดในที่ชื้นและอากาศไม่ถ่ายเท ระบายอากาศให้ดีและรักษาสุขอนามัย
  • โรคเน่าคอดิน/รากเน่า เกิดในระยะต้นกล้า ใช้ดินปลูกสะอาดและกระถางฆ่าเชื้อ
    หลีกเลี่ยงการรดน้ำมากเกินไป

เคล็ดลับ

  • การเด็ดยอด
    เริ่มเด็ดยอดตั้งแต่ 60 วันหลังจากต้นกล้ามีใบจริง 2 คู่ขึ้นไป เด็ดใบจากปลายยอดตามต้องการ

  • การเก็บสด
    เก็บในช่วงเช้าตรู่เพื่อให้ได้น้ำมันหอมระเหยสูงสุด

  • การตากแห้งหรือแช่แข็ง
    เก็บใบที่มีน้ำมันหอมระเหยสูงสุด ก่อนออกดอก

  • การเก็บใบ
    เด็ดยอดเหนือคู่ใบจากด้านบน เพื่อให้ต้นเป็นพุ่ม

  • ข้อควรระวัง
    อย่าเก็บใบมากเกินไปในครั้งเดียว เพราะจะทำให้ต้นอ่อนแอ

  • ดอกไม้
    ดอกไม้ก็กินได้และใช้ตกแต่งอาหารได้

  • การตากแห้ง
    ตัดกิ่งทั้งกิ่งในเช้าที่อากาศแห้ง มัดกิ่งรวมกันหลวมๆ เป็นกลุ่มเล็กๆ แขวนในที่แห้ง อากาศถ่ายเท และไม่โดนแสงแดดโดยตรง หรือตากบนผ้าขาวบางหรือตะแกรงในที่แห้งและร่มรื่น เมื่อแห้งสนิท เก็บในขวดแก้วปิดสนิทในที่แห้งและมืด

  • การแช่แข็ง
    แช่แข็งใบแห้งบนถาดคุกกี้ แล้วใส่ถุงซิปล็อค หรือสับละเอียดแล้วแช่แข็งในถาดน้ำแข็งกับน้ำหรือน้ำมันมะกอก

คำถามที่พบบ่อย

ทำไมใบโหระพาจึงมีรสขม?

สาเหตุที่โหระพาของคุณมีรสขม อาจเป็นเพราะ

การออกดอก เมื่อโหระพาเริ่มออกดอก โดยเฉพาะในช่วงอากาศร้อนจัดในฤดูร้อน ใบจะมีรสขมได้
นี่เป็นกลไกทางธรรมชาติของพืช
ช่วงหมดผลิตผล เมื่อโหระพาเริ่มออกดอก ต้นก็จะหยุดผลิตใบที่มีคุณภาพดีและมีรสชาติอร่อย

 

หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์
ขอให้สนุกกับทุกประสบการณ์เพาะปลูกนะคะ