Rosmarinus officinalis
SCIENTIFIC NAME
Rosmarinus officinalis
Soil Temperature
ช่วงอุณหภูมิดินที่เหมาะสมในการงอก
18-21 °C
Days to Germination
ระยะเวลาในการเพาะเมล็ด
14-21 วัน
ระยะเวลาที่เหมาะสมในการเก็บเกี่ยวส่วนยอดกิ่งโรสแมรี่ ซึ่งเป็นส่วนที่มักใช้ในการปรุงอาหารและมีกลิ่นหอมเข้มข้นที่สุด การเก็บเกี่ยวในระยะนี้จะทำให้ได้โรสแมรี่ที่มีคุณภาพดีที่สุด
ปลูกในระบบไฮโดรโปนิกส์ได้
ชอบแสงแดด อย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน
การงอกที่รวดเร็วและสม่ำเสมอ เพื่อการเพาะปลูกที่มีประสิทธิภาพ
นำเสนอทางเลือกที่เหนือกว่าสำหรับผู้ที่ต้องการเพาะปลูกโรสแมรี่ด้วยความรวดเร็วและสม่ำเสมอ ด้วยกระบวนการไพรม์ (กระตุ้นงอก) แบบดั้งเดิม เมล็ดเหล่านี้จึงได้รับการปรับปรุงให้มีอัตราการงอกที่เร็วกว่าและสม่ำเสมอกว่าเมล็ดโรสแมรี่ทั่วไป ซึ่งหมายถึง การใช้พื้นที่ในถาดเพาะชำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดการสูญเสีย และเพิ่มผลผลิตโดยรวม
วิธีเพาะปลูก
Rosemary โรสแมรี่
ไม้ยืนต้นอ่อน (Tender Perennials) หมายถึง พืชที่สามารถเติบโตและมีชีวิตอยู่ได้หลายปีในสภาพอากาศอบอุ่น โดยไม่จำเป็นต้องปลูกใหม่ทุกปี อย่างไรก็ตาม ในสภาพอากาศที่หนาวเย็นกว่า พืชเหล่านี้อาจไม่สามารถทนต่ออุณหภูมิที่ต่ำได้ และอาจต้องการการป้องกันเป็นพิเศษเพื่อให้มีชีวิตรอดในช่วงฤดูหนาว
การปลูกโรสแมรี่ในประเทศไทยนั้นสามารถทำได้ แต่ต้องคำนึงถึงสภาพอากาศและปัจจัยต่างๆ เพื่อให้โรสแมรี่เติบโตได้ดี โดยทั่วไปแล้ว โรสแมรี่ชอบอากาศที่แห้งและเย็น แต่ก็สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทยได้ หากมีการดูแลที่เหมาะสม
- เลือกพันธุ์โรสแมรี่ที่เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย
พันธุ์ที่ทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้นได้ดี เช่น พันธุ์ Tuscan Blue หรือ Blue Boy
การเตรียมดิน
คลิปแนะนำ
มือเย็น-โรสแมรี่ หอมดี มีไว้คู่ครัว ดินดี มีแดด ตัดได้ทั้งปี Salvia rosmarinus หรือ Rosemary https://youtu.be/Dlu6hm2tGQs?si=_sWMyj3LQPY71sJR
- โรสแมรี่ชอบดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำได้ดี
- หลีกเลี่ยงดินเหนียวที่อุ้มน้ำ เพราะอาจทำให้รากเน่าได้
- ปรับปรุงดินด้วยอินทรียวัตถุ เช่น ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก เพื่อเพิ่มการระบายน้ำและสารอาหารในดิน
- สามารถปลูกโรสแมรี่ได้ 2 วิธี คือ การเพาะเมล็ดและการปักชำ
การเพาะเมล็ด
เพาะเมล็ดในถาดเพาะก่อน แล้วค่อยย้ายกล้าลงกระถางหรือแปลงปลูก
เมล็ดโรสแมรี่งอกช้า ควรใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์
การปักชำ
ตัดกิ่งโรสแมรี่ที่มีความยาวประมาณ 10-15 ซม.
นำกิ่งปักชำลงในดินร่วนปนทรายที่ชื้น วางในที่ร่มรำไร
รอจนกว่ารากจะงอก แล้วค่อยย้ายลงกระถางหรือแปลงปลูก
- เลือกกระถางที่มีรูระบายน้ำดี
- ใช้ดินร่วนปนทรายผสมกับอินทรียวัตถุ
- วางกระถางในบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน
- ยกร่องแปลงปลูก เพื่อให้ระบายน้ำได้ดี
- เว้นระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 30-50 ซม.
- ปลูกในบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน
การรดน้ำ: รดน้ำเมื่อดินแห้ง หลีกเลี่ยงการรดน้ำมากเกินไป เพราะอาจทำให้รากเน่าได้
ในฤดูฝน ควรระบายน้ำออกจากกระถางหรือแปลงปลูกให้ดี
การให้ปุ๋ย:
ให้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเป็นระยะ เพื่อบำรุงต้น
หลีกเลี่ยงการให้ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูง เพราะจะทำให้ใบเติบโตมากเกินไป แต่กลิ่นหอมลดลง
การตัดแต่งกิ่ง:
ตัดแต่งกิ่งเป็นประจำ เพื่อให้ต้นเป็นพุ่มและกระตุ้นการแตกยอดใหม่
ตัดแต่งกิ่งหลังดอกโรย เพื่อให้ต้นแตกกิ่งใหม่
การป้องกันโรคและแมลง:
โรสแมรี่ค่อนข้างทนทานต่อโรคและแมลง แต่ควรระวังโรครากเน่าและแมลงหวี่ขาว
หากพบโรคหรือแมลง ให้กำจัดด้วยวิธีธรรมชาติ หรือใช้สารกำจัดศัตรูพืชที่ปลอดภัย
เคล็ดลับเพิ่มเติม
- การตัดแต่งกิ่งเป็นประจำจะช่วยให้โรสแมรี่เป็นพุ่มและมีกลิ่นหอม
- โรสแมรี่สามารถนำไปใช้ปรุงอาหาร ทำน้ำมันหอมระเหย หรือใช้เป็นสมุนไพรได้
- ตัดใบหรือส่วนยอดกิ่งตามต้องการ สามารถใช้โรสแมรี่ได้ทั้งแบบแห้งและสด
- หากใช้โรสแมรี่สด ควรเก็บในช่วงเช้าตรู่ เพื่อให้ได้ปริมาณน้ำมันหอมระเหยสูงสุด
- สำหรับการตากแห้งหรือแช่แข็ง ควรเก็บใบในช่วงที่มีปริมาณน้ำมันหอมระเหยสูงสุด ซึ่งก็คือช่วงก่อนออกดอก
- เก็บใบ ยอดกิ่ง และดอก นำมาสับหรือขยี้ใบก่อนใช้
- สำหรับการตากแห้ง ให้ตัดกิ่งทั้งกิ่งในเช้าวันที่อากาศแห้ง มัดกิ่งรวมกันหลวมๆ เป็นมัดเล็กๆ และแขวนไว้ในที่แห้ง อากาศถ่ายเท และพ้นจากแสงแดด โรสแมรี่ยังสามารถตากแห้งบนผ้าขาวบางหรือตะแกรงหน้าต่างในที่แห้งและร่มรื่นได้ ห้ามใช้ความร้อนในการตากแห้งโรสแมรี่ เพราะน้ำมันหอมระเหยอาจระเหยได้ เมื่อแห้งสนิทแล้ว ให้เก็บในขวดแก้วปิดสนิทในที่แห้งและมืด
- โรสแมรี่ยังสามารถแช่แข็งแบบแห้ง หรือแช่แข็งในถาดทำน้ำแข็งโดยแช่ในน้ำหรือน้ำมันมะกอกได้
วิธีเปลี่ยนโรสแมรี่ของคุณให้เป็นไม้ดัด (Topiary)
คุณสามารถเปลี่ยนโรสแมรี่ของคุณให้เป็นไม้ดัดทรงสวยงามได้โดยทำตามขั้นตอนเหล่านี้
คลิปแนะนำ How To Make Easy Rosemary Topiaries
- ตัดแต่งกิ่งด้านข้าง: ตัดแต่งกิ่งด้านข้างออก เพื่อกระตุ้นให้ต้นเติบโตในแนวตั้ง
- ปักหลักและผูก: ปักหลักค้ำต้น และใช้เชือกผูกอย่างอ่อนโยนเพื่อยึดต้นเข้ากับหลัก
- ให้แสงแดดและน้ำ: ปลูกต้นในบริเวณที่มีแสงแดดเต็มที่ และรดน้ำให้เพียงพอ เมื่อต้นสูงประมาณ 2 ฟุต ให้ตัดยอด เพื่อกระตุ้นให้กิ่งด้านข้างแตกออกมา
- เล็มกิ่งด้านล่าง: เล็มกิ่งออกจากลำต้นส่วนล่างสองในสามส่วน เหลือไว้เพียงส่วนยอดหนึ่งในสามส่วนสำหรับจัดทรง
- เด็ดยอดเพื่อรักษาทรง: เด็ดยอดที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาทรงพุ่มให้หนาและแน่น