Primed Rosemary

LATIN NAME
Rosmarinus officinalis
SCIENTIFIC NAME
Rosmarinus officinalis

GERMINATION GUIDE
Soil Temperature
ช่วงอุณหภูมิดินที่เหมาะสมในการงอก
18-21 °C
Days to Germination
ระยะเวลาในการเพาะเมล็ด
14-21 วัน

DAYS TO MATURITY
80-100 วัน ตัดส่วนยอดกิ่ง
ระยะเวลาที่เหมาะสมในการเก็บเกี่ยวส่วนยอดกิ่งโรสแมรี่ ซึ่งเป็นส่วนที่มักใช้ในการปรุงอาหารและมีกลิ่นหอมเข้มข้นที่สุด การเก็บเกี่ยวในระยะนี้จะทำให้ได้โรสแมรี่ที่มีคุณภาพดีที่สุด

120-180 วัน ตัดเก็บเป็นมัด
หากต้องการเก็บเกี่ยวโรสแมรี่เป็นมัดเพื่อขายหรือเก็บรักษาไว้ใช้ในปริมาณมาก ควรปล่อยให้ต้นเติบโตเต็มที่ประมาณ 120-180 วัน ช่วงเวลานี้จะทำให้ได้ต้นโรสแมรี่ที่มีขนาดใหญ่และมีปริมาณกิ่งก้านเพียงพอสำหรับการมัด

HYDROPONIC PERFOEMER
ปลูกในระบบไฮโดรโปนิกส์ได้

SUN REQUIREMENT
ชอบแสงแดด 
อย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน
สายพันธุ์พืช
(ชื่อเรียกทางการค้า)




Organic Seed
Primed Rosemary
การงอกที่รวดเร็วและสม่ำเสมอ เพื่อการเพาะปลูกที่มีประสิทธิภาพ
Open Pollinated (OP)

โรสแมรี่ชนิดพันธุ์พุ่ม ไม่เลื้อย

นำเสนอทางเลือกที่เหนือกว่าสำหรับผู้ที่ต้องการเพาะปลูกโรสแมรี่ด้วยความรวดเร็วและสม่ำเสมอ ด้วยกระบวนการไพรม์ (กระตุ้นงอก) แบบดั้งเดิม เมล็ดเหล่านี้จึงได้รับการปรับปรุงให้มีอัตราการงอกที่เร็วกว่าและสม่ำเสมอกว่าเมล็ดโรสแมรี่ทั่วไป ซึ่งหมายถึง การใช้พื้นที่ในถาดเพาะชำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดการสูญเสีย และเพิ่มผลผลิตโดยรวม

ข้อควรทราบ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์การงอกที่ดีที่สุด ควรปลูกเมล็ดกระตุ้นงอกภายใน 6 เดือน นับจากวันที่ซื้อ

นอกจากใบที่หอมกรุ่นแล้ว ดอกโรสแมรี่ยังสามารถรับประทานได้อีกด้วย แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ดอกไม้เหล่านี้มีรสชาติโรสแมรี่ที่เข้มข้น เหมาะสำหรับการใช้เป็นเครื่องปรุงตกแต่งจานอาหารคาว และสลัดต่างๆ
เข้ากันได้ดีกับผักย่าง ผลไม้ หรือวิปครีม ทำให้เป็นส่วนผสมที่หลากหลายในครัว


 วิธีเพาะปลูก

Rosemary โรสแมรี่
ไม้ยืนต้นอ่อน (Tender Perennials) หมายถึง พืชที่สามารถเติบโตและมีชีวิตอยู่ได้หลายปีในสภาพอากาศอบอุ่น โดยไม่จำเป็นต้องปลูกใหม่ทุกปี อย่างไรก็ตาม ในสภาพอากาศที่หนาวเย็นกว่า พืชเหล่านี้อาจไม่สามารถทนต่ออุณหภูมิที่ต่ำได้ และอาจต้องการการป้องกันเป็นพิเศษเพื่อให้มีชีวิตรอดในช่วงฤดูหนาว

การปลูกโรสแมรี่ในประเทศไทยนั้นสามารถทำได้ แต่ต้องคำนึงถึงสภาพอากาศและปัจจัยต่างๆ เพื่อให้โรสแมรี่เติบโตได้ดี โดยทั่วไปแล้ว โรสแมรี่ชอบอากาศที่แห้งและเย็น แต่ก็สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทยได้ หากมีการดูแลที่เหมาะสม


การเลือกพันธุ์
  • เลือกพันธุ์โรสแมรี่ที่เหมาะสมกับสภาพอากาศร้อนชื้นของประเทศไทย
    พันธุ์ที่ทนต่อสภาพอากาศร้อนชื้นได้ดี เช่น พันธุ์ Tuscan Blue หรือ Blue Boy

การเตรียมดิน

คลิปแนะนำ
มือเย็น-โรสแมรี่ หอมดี มีไว้คู่ครัว ดินดี มีแดด ตัดได้ทั้งปี Salvia rosmarinus หรือ Rosemary https://youtu.be/Dlu6hm2tGQs?si=_sWMyj3LQPY71sJR
  • โรสแมรี่ชอบดินร่วนปนทรายที่ระบายน้ำได้ดี
  • หลีกเลี่ยงดินเหนียวที่อุ้มน้ำ เพราะอาจทำให้รากเน่าได้
  • ปรับปรุงดินด้วยอินทรียวัตถุ เช่น ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก เพื่อเพิ่มการระบายน้ำและสารอาหารในดิน
การปลูก
  • สามารถปลูกโรสแมรี่ได้ 2 วิธี คือ การเพาะเมล็ดและการปักชำ
การเพาะเมล็ด
เพาะเมล็ดในถาดเพาะก่อน แล้วค่อยย้ายกล้าลงกระถางหรือแปลงปลูก
เมล็ดโรสแมรี่งอกช้า ควรใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์
 
การปักชำ
ตัดกิ่งโรสแมรี่ที่มีความยาวประมาณ 10-15 ซม.
นำกิ่งปักชำลงในดินร่วนปนทรายที่ชื้น วางในที่ร่มรำไร
รอจนกว่ารากจะงอก แล้วค่อยย้ายลงกระถางหรือแปลงปลูก

การปลูกในกระถาง
  • เลือกกระถางที่มีรูระบายน้ำดี
  • ใช้ดินร่วนปนทรายผสมกับอินทรียวัตถุ
  • วางกระถางในบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน
การปลูกลงแปลง
  • ยกร่องแปลงปลูก เพื่อให้ระบายน้ำได้ดี
  • เว้นระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 30-50 ซม.
  • ปลูกในบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน
การดูแลรักษา
การรดน้ำ: รดน้ำเมื่อดินแห้ง หลีกเลี่ยงการรดน้ำมากเกินไป เพราะอาจทำให้รากเน่าได้
ในฤดูฝน ควรระบายน้ำออกจากกระถางหรือแปลงปลูกให้ดี

การให้ปุ๋ย:
ให้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเป็นระยะ เพื่อบำรุงต้น
หลีกเลี่ยงการให้ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูง เพราะจะทำให้ใบเติบโตมากเกินไป แต่กลิ่นหอมลดลง 
 
การตัดแต่งกิ่ง:
ตัดแต่งกิ่งเป็นประจำ เพื่อให้ต้นเป็นพุ่มและกระตุ้นการแตกยอดใหม่
ตัดแต่งกิ่งหลังดอกโรย เพื่อให้ต้นแตกกิ่งใหม่

การป้องกันโรคและแมลง:
โรสแมรี่ค่อนข้างทนทานต่อโรคและแมลง แต่ควรระวังโรครากเน่าและแมลงหวี่ขาว
หากพบโรคหรือแมลง ให้กำจัดด้วยวิธีธรรมชาติ หรือใช้สารกำจัดศัตรูพืชที่ปลอดภัย

เคล็ดลับเพิ่มเติม
  • การตัดแต่งกิ่งเป็นประจำจะช่วยให้โรสแมรี่เป็นพุ่มและมีกลิ่นหอม
  • โรสแมรี่สามารถนำไปใช้ปรุงอาหาร ทำน้ำมันหอมระเหย หรือใช้เป็นสมุนไพรได้

  • ตัดใบหรือส่วนยอดกิ่งตามต้องการ สามารถใช้โรสแมรี่ได้ทั้งแบบแห้งและสด
  • หากใช้โรสแมรี่สด ควรเก็บในช่วงเช้าตรู่ เพื่อให้ได้ปริมาณน้ำมันหอมระเหยสูงสุด
  • สำหรับการตากแห้งหรือแช่แข็ง ควรเก็บใบในช่วงที่มีปริมาณน้ำมันหอมระเหยสูงสุด ซึ่งก็คือช่วงก่อนออกดอก
  • เก็บใบ ยอดกิ่ง และดอก นำมาสับหรือขยี้ใบก่อนใช้

  • สำหรับการตากแห้ง ให้ตัดกิ่งทั้งกิ่งในเช้าวันที่อากาศแห้ง มัดกิ่งรวมกันหลวมๆ เป็นมัดเล็กๆ และแขวนไว้ในที่แห้ง อากาศถ่ายเท และพ้นจากแสงแดด โรสแมรี่ยังสามารถตากแห้งบนผ้าขาวบางหรือตะแกรงหน้าต่างในที่แห้งและร่มรื่นได้ ห้ามใช้ความร้อนในการตากแห้งโรสแมรี่ เพราะน้ำมันหอมระเหยอาจระเหยได้ เมื่อแห้งสนิทแล้ว ให้เก็บในขวดแก้วปิดสนิทในที่แห้งและมืด
  • โรสแมรี่ยังสามารถแช่แข็งแบบแห้ง หรือแช่แข็งในถาดทำน้ำแข็งโดยแช่ในน้ำหรือน้ำมันมะกอกได้

วิธีเปลี่ยนโรสแมรี่ของคุณให้เป็นไม้ดัด (Topiary)
คุณสามารถเปลี่ยนโรสแมรี่ของคุณให้เป็นไม้ดัดทรงสวยงามได้โดยทำตามขั้นตอนเหล่านี้

คลิปแนะนำ How To Make Easy Rosemary Topiaries
  1. ตัดแต่งกิ่งด้านข้าง: ตัดแต่งกิ่งด้านข้างออก เพื่อกระตุ้นให้ต้นเติบโตในแนวตั้ง
  2. ปักหลักและผูก: ปักหลักค้ำต้น และใช้เชือกผูกอย่างอ่อนโยนเพื่อยึดต้นเข้ากับหลัก
  3. ให้แสงแดดและน้ำ: ปลูกต้นในบริเวณที่มีแสงแดดเต็มที่ และรดน้ำให้เพียงพอ เมื่อต้นสูงประมาณ 2 ฟุต ให้ตัดยอด เพื่อกระตุ้นให้กิ่งด้านข้างแตกออกมา
  4. เล็มกิ่งด้านล่าง: เล็มกิ่งออกจากลำต้นส่วนล่างสองในสามส่วน เหลือไว้เพียงส่วนยอดหนึ่งในสามส่วนสำหรับจัดทรง
  5. เด็ดยอดเพื่อรักษาทรง: เด็ดยอดที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาทรงพุ่มให้หนาและแน่น


หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์
ขอให้สนุกกับทุกประสบการณ์เพาะปลูกนะคะ