Slicing (Long) Cucumber

LATIN NAME
Cucumis sativus
SCIENTIFIC NAME
Cucumis sativus

GERMINATION GUIDE
Soil Temperature
ช่วงอุณหภูมิดินที่เหมาะสมในการงอก
21-32 °C
Days to Germination
ระยะเวลาในการเพาะเมล็ด
5-10 วัน

SUN REQUIREMENT
แสงแดดตลอดวัน

สายพันธุ์พืช
(ชื่อเรียกทางการค้า)




Marketmore 76 Cucumber
Organic Seed เมล็ดพันธุ์ออร์แกนิค
Open Pollinated พันธุ์ผสมเปิด

DAYS TO MATURITY
58-65 วัน

เมล็ดแตงกวาออร์แกนิก Marketmore 76 เป็นพันธุ์ผสมเปิด ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นพันธุ์แตงกวาหั่นที่ปลูกกันอย่างแพร่หลายที่สุด
ด้วยรูปลักษณ์ที่มีลักษณะเรียวยาว สวยงาม ทำให้เป็นมาตรฐานสำหรับแตงกวาหั่นมาอย่างยาวนาน

แตงกวา Marketmore มีผลยาว 8-9 นิ้ว สีเขียวเข้มสม่ำเสมอ แม้ภายใต้สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงหรือความเครียดจากความร้อน ผลยังคงมีสีเขียวเข้ม และรสชาติอ่อน นอกจากนี้ ยังมีความต้านทานต่อโรคหลายชนิด ทำให้ต้นแข็งแรง ทนทาน ให้ผลผลิตสูงตลอดฤดูเก็บเกี่ยวที่ยาวนาน จากการทดลองพบว่า มีความต้านทานที่ดีต่อโรคจุดใบเหลี่ยมและโรคแอนแทรคโนส

แม้ว่าจะเริ่มออกผลช้า แต่สามารถเก็บเกี่ยวได้นานพอสมควร ต้นมีดอกเพศผู้และเพศเมียในต้นเดียวกัน (Monoecious) ทำให้ผสมเกสรได้ดี และเป็นพันธุ์ผสมเปิด (Open-Pollinated) ที่สามารถเก็บเมล็ดพันธุ์ไปปลูกต่อได้ เมล็ดได้รับการรับรองเกษตรอินทรีย์จาก USDA (กระทรวงเกษตรสหรัฐ) ทำให้มั่นใจได้ว่าปลูกด้วยวิธีธรรมชาติ ปลอดภัยจากสารเคมี





Shintokiwa Cucumber
Organic Seed เมล็ดพันธุ์ออร์แกนิค
Open Pollinated พันธุ์ผสมเปิด

DAYS TO MATURITY
60 วัน

ผลยาว ผิวบาง เมล็ดเล็ก รสชาติยอดเยี่ยม กรอบอร่อย
เหมาะสำหรับรับประทานสด, ใช้ในสลัด, ซูชิ, นำมาดอง

ต้นแตงกวา Shintokiwa มีลักษณะแข็งแรง ให้ผลยาวเรียว รสชาติไม่ขมเมื่อสุก
แม้เก็บเกี่ยวในขนาดใหญ่ ผลก็ยังคงชุ่มฉ่ำ เนื้อสัมผัสสดกรอบ และรสชาติหวานสดชื่น
เป็นพันธุ์ที่ให้ผลผลิตยาวสม่ำเสมอ สามารถทำค้างเพื่อให้ผลตรง
เก็บเกี่ยวเมื่อแตงกวาเรียวและยาว 9 นิ้วหรือสั้นกว่า เพื่อรสชาติหวานที่ดีที่สุด
ได้รับการแนะนำโดยนักเรียนรูดอล์ฟ สไตเนอร์ชาวญี่ปุ่น และดูแลโดยผู้ปลูกเมล็ดพันธุ์ชีวภาพพลวัต
Harald Hoven มาหลายปี ปัจจุบันดูแลโดย Meadowlark Hearth Biodynamic Seed Initiative 
เมล็ดได้รับการรับรองเกษตรอินทรีย์จาก USDA

Shintokiwa เป็น 
Japanese burpless type
หมายถึง 
มีสารคิวเคอร์บิทาซิน (Cucurbitacin) ต่ำ ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดรสขมและอาการไม่สบายท้อง

ต้นมีดอกเพศผู้และเพศเมียในต้นเดียวกัน (Monoecious) ขนาดผลยาว 9-12 นิ้ว
มีความทนทานสูงต่อการเกิดโรคเหี่ยวแบคทีเรีย





Suyo Long Cucumber
Organic Seed เมล็ดพันธุ์ออร์แกนิค
Open Pollinated พันธุ์ผสมเปิด

DAYS TO MATURITY
60 วัน


แตงกวายาว Suyo สายพันธุ์นี้เป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศจีน
ผลยาว ไร้รสขม หวาน กรอบ ทนร้อน และปรับตัวได้ดี ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการรับประทานสด นำไปดอง หรือใช้ประกอบอาหาร

เมื่อผลยังอ่อนจะมีหนาม แต่เมื่อถึงช่วงที่สุกเต็มที่ ผิวจะเรียบเนียนขึ้น ข้อสังเกตอีกประการคือ ผลมีแนวโน้มที่จะงอที่ปลายด้านหนึ่ง หากต้องการผลที่ตรงสวย แนะนำให้ปลูกโดยทำค้างหรือซุ้มเลื้อย

สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี และทนทานต่อความร้อนเป็นอย่างยิ่ง Suyo Long เป็นสายพันธุ์ท้องถิ่นมาจากเอเชียที่สืบทอดกันมายาวนาน (Heirloom) เมล็ดได้รับการรับรองเกษตรอินทรีย์จาก USDA

ต้นมีดอกเพศผู้และเพศเมียในต้นเดียวกัน (Monoecious) ขนาดผลยาวถึง 15 นิ้ว
มีความทนทานต่อโรคราแป้งในระดับปานกลาง


วิธีเพาะปลูก

Monoecious
อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับพืชโมโนอีเซียส

  • มีดอก 2 ชนิดในต้นเดียว
    พืชโมโนอีเซียสจะมีดอกที่ทำหน้าที่สร้างเกสรตัวผู้ (ดอกเพศผู้) และดอกที่ทำหน้าที่สร้างรังไข่ (ดอกเพศเมีย) แยกกัน แต่ทั้งหมดจะอยู่บนต้นพืชต้นเดียวกัน

  • การผสมเกสร
    การที่มีดอกทั้งสองเพศอยู่ในต้นเดียวกันนี้ ทำให้พืชสามารถผสมเกสรได้ทั้ง 2 แบบ

    • ผสมในต้นเดียวกัน (Self-pollination): เกสรตัวผู้จากดอกหนึ่งในต้นเดียวกันสามารถถ่ายไปผสมกับเกสรตัวเมียของอีกดอกหนึ่งในต้นเดียวกันได้

    • ผสมข้ามต้น (Cross-pollination): เกสรตัวผู้จากต้นหนึ่งอาจถ่ายไปผสมกับเกสรตัวเมียของอีกต้นหนึ่งที่เป็นชนิดเดียวกันได้เช่นกัน

  • ข้อดี
    การมีดอกทั้งสองเพศในต้นเดียวเป็นข้อดีในแง่ของการเพิ่มโอกาสในการผสมเกสรและติดผล เพราะไม่จำเป็นต้องพึ่งพาพืชต้นอื่นเพื่อการผสมพันธุ์เสมอไป ทำให้มั่นใจได้ว่าแม้จะมีพืชเพียงต้นเดียวก็ยังสามารถสร้างเมล็ดหรือผลได้



Slicing Cucumber / Long Cucumber
แตงกวายาว แตงกวาญี่ปุ่น

การปลูกแตงกวายาว แตงกวาญี่ปุ่นในประเทศไทยให้ได้คุณภาพดีนั้น ต้องอาศัยการดูแลเอาใจใส่ในหลายด้าน ตั้งแต่การเตรียมดิน การเพาะเมล็ด การดูแลรักษา ไปจนถึงการเก็บเกี่ยวผลผลิต
โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. การเตรียมดิน

  • เลือกดิน แตงกวาญี่ปุ่นชอบดินร่วนปนทรายที่มีการระบายน้ำและอากาศได้ดี มีค่า pH อยู่ระหว่าง 5.5-6.5
  • ปรับปรุงดิน หากดินมีลักษณะเป็นดินเหนียว ควรผสมแกลบ ขี้เถ้า หรือปุ๋ยหมักเพื่อปรับปรุงโครงสร้างดินให้โปร่งร่วน หากดินเป็นกรด ควรเติมปูนขาวเพื่อปรับค่า pH ให้เหมาะสม
  • ทำแปลงปลูก ยกร่องแปลงปลูกให้สูงประมาณ 20-30 cm เพื่อป้องกันน้ำขัง และทำแนวค้างสำหรับให้ต้นแตงกวาเลื้อย

2. การเพาะเมล็ด

  • เลือกเมล็ดพันธุ์​ เลือกเมล็ดพันธุ์แตงกวาญี่ปุ่นที่มีคุณภาพดีจากแหล่งที่เชื่อถือได้
  • เพาะเมล็ด เพาะเมล็ดในถาดเพาะ หรือกระบะเพาะ โดยใช้พีทมอส หรือใช้ดินเพาะกล้าที่มีการระบายน้ำดี กลบเมล็ดบางๆ รดน้ำให้ชุ่ม และวางในที่แดดรำไร
  • ย้ายกล้า เมื่อต้นกล้ามีใบจริง 3-4 ใบ จึงย้ายลงแปลงปลูก โดยให้มีระยะห่างระหว่างต้น
    ประมาณ 30-50 cm และระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 1-1.5 เมตร

3. การดูแลรักษา

  • ให้น้ำ แตงกวาญี่ปุ่นต้องการน้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงออกดอกและติดผล ควรรดน้ำวันละ 2 ครั้ง ในช่วงเช้าและเย็น
  • ให้ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกเพื่อบำรุงดิน และใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 หรือ 16-16-16 ในช่วงก่อนออกดอกและหลังติดผล

  • การรดโคนต้น หรือฉีดพ่นใบ เลือกใช้ปุ๋ยปลา+ปุ๋ยสาหร่าย บำรุงพืชอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง เพื่อผลผลิตที่ดี เติมธาตุอาหารที่หลากหลาย บำรุงรากให้สมบูรณ์แข็งแรง สามารถดูดซึมธาตุอาหารในดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การให้ปุ๋ย เติมดิน ใส่ปุ๋ยหมักหรือดินหมัก เดือนละ 1 ครั้ง เลือกใช้ปุ๋ยที่ผ่านกระบวนการหมักที่สมบูรณ์และสะอาด ปราศจากโรคและแมลงปนเปื้อน
  • ให้ปุ๋ยทางใบ ควรฉีดพ่นใต้ใบในเวลาเช้าตรู่ เป็นช่วงเวลาที่พืชเปิดปากใบ ฉีดพ่นก่อนเวลาที่พืชจะพบกับแสงแดดจัด ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารรองและธาตุอาหารเสริม (เช่น แคลเซียม โบรอน) จะช่วยป้องกันการขาดธาตุอาหาร และช่วยให้ผลผลิตดี มีคุณภาพ

  • ทำค้าง ทำค้างให้ต้นแตงกวาเลื้อย เพื่อให้ผลผลิตมีคุณภาพดีและเก็บเกี่ยวง่าย
  • กำจัดวัชพืช กำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการแย่งน้ำและอาหารจากต้นแตงกวา
  • ป้องกันโรคและแมลง หมั่นตรวจดูต้นแตงกวาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันโรคและแมลง หากพบโรคหรือแมลง ให้รีบกำจัดด้วยวิธีที่เหมาะสม

4. การเก็บเกี่ยวผลผลิต

  • ระยะเก็บเกี่ยว แตงกวาญี่ปุ่นจะเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เมื่ออายุประมาณ 60 วันหลังปลูก
  • วิธีการเก็บเกี่ยว เก็บเกี่ยวผลผลิตเมื่อผลมีขนาดตามต้องการ โดยใช้กรรไกรตัดขั้วผล เพื่อป้องกันไม่ให้ต้นแตงกวาเสียหาย

ข้อควรระวัง

  • แตงกวาญี่ปุ่นไม่ชอบอากาศร้อนจัด ควรปลูกในช่วงฤดูที่มีอากาศเย็นสบาย
  • ควรมีการระบายอากาศในแปลงปลูกที่ดี เพื่อป้องกันการเกิดโรคราน้ำค้าง
  • การปลูกในโรงเรือน สามารถช่วยควบคุม สภาพแวดล้อมได้ดีกว่าการปลูกในแปลงเปิด

ข้อมูลเพิ่มเติม

  • การปลูกแตงกวาญี่ปุ่นในประเทศไทย สามารถทำได้ทั้งในแปลงเปิด และในโรงเรือน
  • การปลูกในโรงเรือนจะช่วยให้ควบคุมสภาพแวดล้อมได้ดีกว่า และลดความเสี่ยงจากโรคและแมลง
  • การปลูกแตงกวาญี่ปุ่นในกระสอบเป็นอีกหนึ่งวิธีที่นิยมในปัจจุบันเนื่องจาก ช่วยประหยัดพื้นที่ และควบคุมการให้ปุ๋ย และน้ำได้ง่ายกว่า

คำถามที่พบบ่อย

ต้องช่วยผสมเกสรหรือไม่? 

โดยทั่วไปแล้ว แตงกวาญี่ปุ่นเป็นพืชที่สามารถผสมเกสรได้เอง แต่ในบางกรณีอาจต้องมีการช่วยผสมเกสรเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากปลูกในสภาพแวดล้อมที่ขาดแคลนแมลงช่วยผสมเกสร หรือปลูกในโรงเรือน

ความจำเป็นในการช่วยผสมเกสร

  • สภาพแวดล้อม หากปลูกในโรงเรือนหรือในพื้นที่ที่มีแมลงน้อย การช่วยผสมเกสรจะช่วยเพิ่มอัตราการติดผล
  • สภาพอากาศ ในช่วงที่มีอากาศร้อนจัดหรือเย็นจัด การช่วยผสมเกสรอาจช่วยให้การติดผลดีขึ้น
  • สายพันธุ์ แตงกวาญี่ปุ่นบางพันธุ์อาจต้องการการช่วยผสมเกสรมากกว่าพันธุ์อื่น

วิธีการช่วยผสมเกสร

  • การใช้พู่กัน
    • ใช้พู่กันขนาดเล็กจุ่มเกสรตัวผู้จากดอกตัวผู้
    • นำพู่กันที่มีเกสรตัวผู้ไปแตะที่เกสรตัวเมียของดอกตัวเมีย
  • การเขย่าดอก เขย่าดอกตัวผู้เบาๆ เพื่อให้เกสรตัวผู้ร่วงลงบนดอกตัวเมีย
  • การตัดดอกตัวผู้ ตัดดอกตัวผู้มาแตะกับดอกตัวเมียโดยตรง

ข้อสังเกต

  • ดอกตัวผู้จะมีลักษณะเรียวเล็ก ไม่มีผลเล็กๆ ติดอยู่ใต้ดอก
  • ดอกตัวเมียจะมีลักษณะอวบอ้วน มีผลเล็กๆ ติดอยู่ใต้ดอก
  • ควรผสมเกสรในช่วงเช้าที่ดอกบานเต็มที่

เคล็ดลับเพิ่มเติม

  • การปลูกพืชที่มีดอกสีสันสดใส เช่น ดาวเรือง หรือทานตะวัน ใกล้แปลงแตงกวา จะช่วยดึงดูดแมลงให้มาช่วยผสมเกสร
สังเกตว่าถ้ามีการติดลูกแล้วแสดงว่ามีการผสมเกสรแล้ว
การช่วยผสมเกสรแตงกวาญี่ปุ่นอย่างถูกวิธี จะช่วยให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพดีและมีปริมาณมากขึ้น

นี่คือวิดีโอและคลิปเกี่ยวกับการปลูกแตงกวาญี่ปุ่น


หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์
ขอให้สนุกกับทุกประสบการณ์เพาะปลูกนะคะ