Beet, Beetroot

LATIN NAME
Beta vulgaris
SCIENTIFIC NAME
Beta vulgaris

GERMINATION GUIDE
Soil Temperature
ช่วงอุณหภูมิดินที่เหมาะสมในการงอก
27-32 °C
Days to Germination
ระยะเวลาในการเพาะเมล็ด
5-7 วัน

DAYS TO MATURITY
50 วัน

SUN REQUIREMENT
แสงแดดเต็มวัน หรืออย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน

สายพันธุ์พืช
(ชื่อเรียกทางการค้า)



Subeto Beetroot
Organic Seed
Hybrid (F1)

Subeto พันธุ์นี้เพาะปลูกง่าย โตเร็ว ได้ผลผลิตเร็ว
เหมาะสำหรับการผลิตเชิงพาณิชย์ พันธุ์นี้โตเร็วมาก ต้นแข็งแรง และได้ขนาดที่ต้องการแม้ปลูกในพื้นที่จำกัด
ยอดแข็งแรง ส
ามารถใช้เครื่องจักรเก็บเกี่ยวได้ง่าย ผิวของบีทรูทเนียน ขนาดราก(หัว)ประมาณ 3 นิ้ว
พันธุ์นี้พัฒนาโดยบริษัทเมล็ดพันธุ์ Bejo Seeds เมล็ดผ่านการเคลือบตามมาตรฐานออร์แกนิกของสหรัฐอเมริกา (NOP) เมล็ดได้รับการรับรองออร์แกนิกจาก USDA (กระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา)

วิธีเพาะปลูก
Beetroot บีทรูท


บีทรูทอยู่ในตระกูล Chenopodiaceae ซึ่งรวมถึง spinach, chard, orach และ quinoa
Garden Beets บีทรูทสำหรับสวน

มีให้เลือกหลากหลายสีสัน ตั้งแต่สีแดงเข้มแบบดั้งเดิมไปจนถึงสีทองสดใส เพื่อให้ทั้งสวยงามและอร่อย บางพันธุ์ยังเหมาะสำหรับกินใบได้อีกด้วย

Sugar Beets บีทรูทน้ำตาล
มีปริมาณน้ำตาล 20% และมีน้ำหนักตั้งแต่ 3-6 กิโลกรัม ปัจจุบันใช้ผลิตน้ำตาลเกือบครึ่งหนึ่งของโลก

Forage Beets บีทรูทอาหารสัตว์
เรียกอีกอย่างว่าบีทรูทแมงเกิล มีขนาดใหญ่กว่าบีทรูทน้ำตาล ใช้เป็นอาหารสัตว์

การปลูกในฤดูหนาวจะทำให้บีทรูทมีหัวขนาดใหญ่กว่าการปลูกในฤดูร้อน
การปลูกบีทรูทในประเทศไทย แนะนำให้ใช้วิธีลดความร้อน เช่น สแลนหรือตาข่ายกรองแสง,​ พื้นที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก, อาจมีพัดลมติดตั้ง เพื่อช่วยระบายอากาศร้อนออกจากบริเวณแปลงปลูก


ดิน
  • บีทรูทจะเติบโตได้ดีในดินร่วนหรือดินร่วนปนทราย ระบายน้ำได้ดี มีความเป็นกรดระหว่าง 6.2 ถึง 6.8 แต่สามารถทนต่อค่า pH 6.0-7.5 และดินที่มีเนื้อสัมผัสหลากหลายได้
  • ดินเหนียวหนักสามารถปรับปรุงได้โดยการเติมอินทรียวัตถุ (เช่น ปุ๋ยหมัก) แต่ต้องแน่ใจว่าย่อยสลายได้ดีแล้ว มิฉะนั้นจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคสะแคบ (โรคที่ทำให้เกิดจุดหยาบบนผิวดิน)
  • บีทรูทคุณภาพดีที่สุดจะเกิดขึ้นจากการปลูกในแปลงยกสูงที่พรวนดินลึก และไม่มีหินหรือเศษซาก

  • อุณหภูมิ: อุณหภูมิที่เหมาะสมประมาณ 15-20 °C
    อุณหภูมิเย็นจะทำให้เนื้อบีทรูทมีสีสวยงาม หัวได้ขนาดใหญ่
    การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอย่างรวดเร็วอาจทำให้เกิดวงแหวนสีขาวในราก
ปุ๋ย
  • ใส่ปุ๋ยที่มีอัตราส่วน 1-2-2 (ไนโตรเจน-ฟอสฟอรัส-โพแทสเซียม) 7 วันก่อนการเพาะเมล็ด
  • อาจจำเป็นต้องใส่ปุ๋ยข้างแถว 1-3 ครั้ง (การใส่ปุ๋ยเพิ่มระหว่างการเจริญเติบโต)
  • บีทรูทอาจเกิดจุดดำภายใน หากระดับโบรอนในดินไม่เพียงพอ

การปลูก
  • การย้ายกล้าปลูก:
    • เพาะเมล็ดในโรงเรือนเย็นหรือในร่มช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิ ประมาณ 5-6 สัปดาห์ก่อนย้ายกล้าปลูกลงแปลง หลังจากหมดความเสี่ยงจากน้ำค้างแข็ง
    • เพาะเมล็ดลึก 1-1.2 ซม. หยอด 2-3 เมล็ดต่อหลุมในถาดเพาะขนาด 72 หรือ 128 หลุม
    • ย้ายกล้าปลูกโดยให้แต่ละต้นห่างกัน 7.5 ซม. และแต่ละแถวห่างกัน 30-45 ซม.
    • บีทรูทที่ย้ายกล้าปลูกอาจมีขนาดไม่สม่ำเสมอเท่าบีทรูทที่เพาะเมล็ดโดยตรง และรากอาจพันกัน ทำให้ต้องดึงรากออกอย่างระมัดระวัง
    • การย้ายกล้าปลูก จะช่วยให้เก็บเกี่ยวได้เร็วขึ้นหากสภาพอากาศไม่ดีและขัดขวางการเพาะเมล็ดโดยตรง

  • การเพาะเมล็ดโดยตรง:
    • เริ่มเพาะเมล็ดเมื่อดินอุ่นถึง 7 °C
    • หยอดเมล็ด 15 เมล็ดต่อฟุต ลึก 1-1.2 ซม. แต่ละแถวห่างกัน 30-45 ซม.
    • เมื่อต้นกล้าโต ให้ถอนต้นที่ไม่แข็งแรงออก ให้แต่ละต้นห่างกัน 7.5 ซม.
    • หากต้องการเก็บเกี่ยวใบอ่อนและบีทรูทขนาดเล็กอย่างต่อเนื่อง
      ให้เพาะเมล็ดทุกๆ 2 สัปดาห์ จนถึง 8 สัปดาห์ก่อนที่จะมีน้ำค้างแข็ง
โรค
  • รดน้ำให้เพียงพอเพื่อป้องกันโรคสะแคบ (Scab) ซึ่งเป็นโรคที่ทำให้เกิดจุดสีน้ำตาลหยาบบนราก
  • การแตกตัวภายในหรือการเกิดสีน้ำตาล มักเกิดขึ้นในดินที่เป็นด่าง หลังจากช่วงอากาศร้อนและแห้งเป็นเวลานาน ซึ่งเกิดจากการขาดธาตุโบรอน
  • ปลูกพืชหมุนเวียนเพื่อป้องกันโรคใบจุด (Cercospora leaf spot) ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับบีทรูทที่เก็บเกี่ยวเป็นกลุ่มและบีทรูทใบอ่อน

การเก็บเกี่ยว

  • รอจนกว่าบีทรูทจะโตได้ขนาดที่ต้องการก่อนที่จะเก็บเกี่ยว

การเก็บรักษา:

  • สำหรับตลาดสด: ล้างและเก็บมัดบีทรูทได้นานถึง 10 วันที่อุณหภูมิ 0°C และความชื้นสัมพัทธ์ 95%
  • สำหรับการเก็บรักษาในฤดูหนาว: ตัดยอด ล้าง และเก็บรากได้นานถึง 6 เดือนที่อุณหภูมิ 0°C และความชื้น 95%


คำถามที่พบบ่อย

บีทรูท ควรกินแบบดิบหรือทำให้สุก?

บีทรูทสามารถรับประทานได้ทั้งแบบดิบและแบบสุก

บีทรูทดิบ

  • ประโยชน์
    • มีสารอาหารครบถ้วน: การรับประทานบีทรูทดิบจะช่วยให้ได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน โดยเฉพาะโฟเลต ซึ่งเป็นวิตามินที่สูญเสียได้ง่ายเมื่อโดนความร้อน
    • มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง: บีทรูทดิบมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย
    • ช่วยลดความดันโลหิต: บีทรูทมีไนเตรตสูง ซึ่งช่วยขยายหลอดเลือดและลดความดันโลหิต
  • ข้อควรระวัง
    • อาจมีรสชาติเฉพาะตัว: บีทรูทดิบมีรสชาติเฉพาะตัวที่บางคนอาจไม่ชอบ
    • อาจทำให้ปัสสาวะเป็นสีแดง: สารเบทานินในบีทรูทอาจทำให้ปัสสาวะหรืออุจจาระเป็นสีแดง ซึ่งเป็นเรื่องปกติและไม่อันตราย

บีทรูทสุก

  • ประโยชน์
    • รสชาติหวานขึ้น: การปรุงสุกจะทำให้บีทรูทมีรสชาติหวานขึ้นและรับประทานง่ายขึ้น
    • ย่อยง่ายขึ้น: การปรุงสุกจะช่วยให้บีทรูทย่อยง่ายขึ้น
  • ข้อควรระวัง
    • สูญเสียสารอาหารบางส่วน: การปรุงสุกอาจทำให้สูญเสียสารอาหารบางส่วน โดยเฉพาะโฟเลต
    • การต้มจะทำให้สีของบีทรูทออกไปอยู่ในน้ำที่ต้มด้วย

ข้อควรระวังเพิ่มเติม

  • บีทรูทอาจทำให้ปัสสาวะหรืออุจจาระเป็นสีแดง ซึ่งเป็นเรื่องปกติและไม่อันตราย แต่ก็อาจทำให้บางคนตกใจได้
  • การรับประทานบีทรูทในปริมาณมากอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือท้องเสียได้

หากคุณมีโรคประจำตัวหรือข้อกังวลใดๆ
ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการก่อนรับประทานบีทรูท

หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์
ขอให้สนุกกับทุกประสบการณ์เพาะปลูกนะคะ